“แอสเซทไวส์” มองบวกตลาดอสังหาฯปี 66 รับท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ

“แอสเซทไวส์” มองบวกตลาดอสังหาฯปี 66 รับท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ
"แอสเซทไวส์” รับสัญญาณบวกเศรษฐกิจฟื้นจากท่องเที่ยว เปิด 12 โครงการใหม่ในปี 2566 มูลค่ารวมกว่า 22,500 ล้านบาท ปิดรายได้นิวไฮ 15,000 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และด้านไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่าจากสัญญาณบวกเศรษฐกิจในปี2566 เริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว ผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องขยายการเติบโตตาม สอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เติบโตจีดีพีไทยปีนี้อยู่ที่ 3.7%

 

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นของไทยยังไม่รุนแรงมากนักเทียบกับต่างประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่กลับคืนมา มีการใช้ชีวิตการทำงานเข้าสู่ภาวะปกติ ฯลฯ เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียม และ แนวราบ ในปีนี้ ตามมา

 

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้บริษัทวางแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1. Continue: เปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจมา จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 22,500 ล้านบาท

 

แบ่งสัดส่วนเป็น คอนโดมิเนียมฯ 70% แบรนด์เคฟ (Kave), แบรนด์แอทโมซ (Atmoz) และแบรนด์โมดิซ (Modiz) จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 15,830 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30% จำนวน 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (The Honor) และ แบรนด์แนวราบน้องใหม่กับ แบรนด์ดิ อาร์เบอร์ (The Arbor) มูลค่ารวม 6,670 ล้านบาท

 

บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ในปีนี้ที่ 7,200 ล้านบาท 

 

กลยุทธ์ที่ 2. Connect: สร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ ล่าสุดบริษัทร่วมทุน กับบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด พัฒนาโครงการโบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BOTANICA Grand Avenue) เพื่อขยายพอร์ตแนวราบระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ยังร่วมกับบริษัทพันธมิตรในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมต่าง ๆ พร้อมลงทุนต่อเนื่อง อาทิ บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น ในโครงการ แอทโมซ บางนา (Atmoz Bangna) มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท และโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kaset) มูลค่าโครงการกว่า 1,350 ล้านบาท

 

โดยยังร่วมทุนกับบริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด (Tokyo Tatemono) พัฒนาโครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช (Atmoz Oasis onnut) มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท พร้อมร่วมทุนกับ บริษัท ไอดีล เรียล จำกัด ในโครงการเคฟ มิวแทนท์ ศาลายา (Kave Mutant Salaya) มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังขยายธุรกิจใหม่ด้านไลฟ์สไตล์และความบันเทิง โดยเข้าซื้อหุ้น 41.18% ในบริษัท แซ๊ป เวิลด์ เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด หรือ ZAAP World ตอกย้ำการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ทุกด้าน

 

สุดท้ายกลยุทธ์ที่ 3 Contribute: สร้างความยั่งยืนธุรกิจควบคู่สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เพื่อสร้าง Ecosystem ที่เกื้อหนุนคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งการพักอาศัย สิ่งแวดล้อมและสังคม

 

โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาโครงการต่าง ๆ และได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะการขยายตลาด Campus Condo ภายใต้แบรนด์เคฟ (Kave) ที่เปิดโครงการมาแล้วกว่า 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,700 ล้านบาท

 

ขณะที่สิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ พัฒนาโครงการรวม ทั้งสิ้น 47 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 49,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 34 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 13 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 12,935 ล้านบาท

 

นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่าสำหรับปี 2566 เตรียมเปิด 12 โครงการใหม่ ทั้งแนวสูง พร้อมบาลานซ์ด้วยพอร์ตแนวราบ เพื่อสร้างความหลากหลายรองรับทุกความต้องการ มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 22,500 ล้านบาท

จากแนวทางดังกล่าว บริษัทวางเป้าหมายต่อยอดสู่การเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ด้วยเป้าหมายการรับรู้รายได้ 7,200 ล้านบาท และเป้าหมายยอดขายที่ 15,000 ล้านบาท ในปีนี้

 

TAGS: #แอสเซทไวส์ #อสังหาริมทารัพย์ #คอนโด