ไทย-กัมพูชา กระชับความร่วมมือด้านระบบชำระเงิน หนุนท่องเที่ยว ค้าขาย 2 ประเทศใช้จ่ายผ่าน QR Code ชำระค่าสินค้าส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นระหว่างกัน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระบบการชำระเงินระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนการค้าและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน ทำให้หน่วยงานด้านการการเงิน อาทิ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีแนวชายแดนติดกับประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินที่อำนวยความสะดวกสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวและการค้าระหว่างกันมากขึ้น
ล่าสุด ธปท. และ ธนาคารกลางกัมพูชาได้ขยายความร่วมมือด้านการชำระเงินไทย - กัมพูชาด้วย QR Code ระยะที่ 2 ซึ่งจะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวไทยสามารถชำระเงินค่าสินค้าที่ร้านค้าในประเทศกัมพูชาด้วย Cross-border QR code ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งทำให้การชำระเงินระหว่าง 2 ประเทศมีความสะดวก ปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงเป็นการส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นทั้งไทยและกัมพูชาโดยไม่ต้องผ่านสกุลอื่น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือนี้ทำให้ชาวไทยที่เดินทางไปยังกัมพูชาสามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารไทยได้แก่ ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา และไทยพาณิชย์ ที่ร้านค้าในกัมพูชาที่มีสัญลักษณ์ KH QR (มาตรฐาน QR ของกัมพูชา) ของธนาคาร ACLEDA ส่วนกรณีที่ชาวกัมพูชาเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยสามารถชำระเงินค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ACLEDA, Sathapana, Hattha, FTB Bank และ Cambodia Post Bank ณ ร้านค้าไทยที่มี Thai QR ของธนาคารกรุงไทย กรุงเทพ กรุงศรีอยุธยา กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ โดยวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 100,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 500,000 บาทต่อวัน
นอกจากกัมพูชาแล้ว ปัจจุบัน ธปท. ยังมีความร่วมมือกับธนาคารกลางในอาเซียนหลายประเทศเพื่อพัฒนาการชำระเงินผ่าน QR Code ได้แก่ มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้เงินสกุลท้องถิ่นของอาเซียนมากขึ้น อำนวยความสะดวกให้การเดินทางท่องเที่ยวในอาเซียนเป็นไปโดยสะดวก ต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยนถูกลง โดยชาวไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและประสงค์จะใช้จ่ายด้วยแอปพลิเคชันธนาคารไทยในประเทศดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/BOT-Cross-Border-Payment