‘เอ็นริช’ เปิดอินไซด์ บ้านหรูโตแรง ไม่แผ่ว ดีไซน์-ส่วนตัว-ทำเล ไม่ห่วงราคา

‘เอ็นริช’ เปิดอินไซด์  บ้านหรูโตแรง ไม่แผ่ว  ดีไซน์-ส่วนตัว-ทำเล ไม่ห่วงราคา
กลุ่มเอ็นริช ร่วมไซบุแก๊ส พัฒนาโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 12 หลัง ราคา 65-133 ล้านบาท ทำเลใจกลางสุขุมวิท รับดีมานด์แรงต่อเนื่อง

สุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าลักซูรีขึ้นไป ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งพบว่ามีความต้องการซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มที่มาแรงในปีนี้ แต่การพัฒนาโครงการต้องตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในเรื่องของทำเล คุณภาพ งานดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน

จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมา และข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าลักซูรี บริษัทฯ ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ของญี่ปุ่น พัฒนาโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 (ARCH Sukhumvit 39) บ้านระดับซุปเปอร์ลักซูรี เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลซีบีดี 

“โครงการฯ ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีบนถนนสุขุมวิท และปัจจุบันหาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ยากมาก สวนทางกับความต้องการอยู่อาศัยที่มีสูง เนื่องจากเป็นทำเลมีศักยภาพ มีความสมบูรณ์ของระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และเป็นทำเลใจกลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯด้วย” สุพิชา กล่าว

สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39  บริษัทฯ พัฒนาโครงการ โดยการออกแบบ ด้วยดีไซน์ Modern Classic เน้นการออกแบบรูปทรง ARCH ทำให้โครงการโดดเด่น พื้นที่ภายในที่เป็นเอกลักษณ์ พื้นที่เป็นส่วนตัว เรียบหรูทันสมัย เน้นเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทุกชั้น ทุกห้องได้รับแสงธรรมชาติ ตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน บนที่ดิน 2 ไร่ จำนวน 12 หลัง บนพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 535-829 ตร.ม. ขนาด 4-5 ห้องนอน และที่จอดรถ 4-6 คัน พร้อมลิฟต์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2566 นี้

ด้าน โยชินาริ นุมาโนะ และ มร.เคสุเกะ โคจิ ตัวแทนฝ่ายบริหาร บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด ร่วมกันกล่าวว่า แม้ว่าธุรกิจอสังหาฯ ในไทยมีการแข่งขันสูง แต่มั่นใจว่ากลุ่มบริษัท เอ็นริช จะผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ ในไทยเติบโตต่อไปได้ และเหตุผลที่ทางกลุ่มไซบุแก๊ส เลือกที่จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจมาที่อาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยนั้น เพราะมีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น มีการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาฯ ที่มั่นคง

ด้าน อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสำหรับตลาดบ้านกลุ่มลักซูรีขึ้นไปในกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ในกลุ่มลักซูรีขึ้นไปในช่วงก่อนโควิด-19 (ปี 2560-2562) พบว่ามีการเปิดตัวเฉลี่ย 260 หลังต่อปี

ในขณะที่ช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 (ปี 2563-2565) ตลาดบ้านระดับลักซูรีขึ้นไปกลับเติบโตสวนกระแส โดยมีการเปิดตัวเฉลี่ย 645 หลังต่อปี หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 132%

เมื่อพิจารณาในด้านความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการขยายพื้นที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านระดับลักซูรีขึ้นไปโดยรวมในตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้พุ่งสูงถึง 78%

ในขณะที่ยอดขายโดยรวมในปี 2565 อยู่ที่ 68% โดยทำเลที่มียอดขายสูงที่สุด คือ ทำเลใจกลางเมือง มียอดขายสูงถึง 88% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าซัพพลายตลาดบ้านในทำเลนี้มีน้อยมาก เพราะที่ดินมีจำกัด

อย่างไรก็ตาม ความต้องการบ้านใจกลางเมืองยังเป็นความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยผลกระทบจากโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดความต้องการในตลาดและส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมาสู่รูปแบบบ้านเพิ่มมากขึ้น

“หากเปรียบเทียบโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่ย่านอโศกไปจนถึงทองหล่อ จะพบว่ายูนิตขนาดใหญ่ 3 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-350 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน ซึ่งราคาจะอยู่ที่ระดับ 60-130 ล้านบาท” อาทิตยา กล่าว

ด้าน อนวัช ฉัตรศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวเสริมว่า สิ่งสำคัญที่ทำใหโครงการของกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นเพราะมีข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ จากการสำรวจตลาด พบว่า กลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่จะมีความต้องการใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่

1.ทำเล ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

2.ดีไซน์ พื้นที่ใช้สอยต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีความสวยงาม การออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับ การดีไซน์นั้นยังต้องแสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงด้วย

3.มีความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เพราะลูกค้าต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อกลับมาที่บ้าน