รพ.‘วิมุต’ เปิดศูนย์ส่องกล้องละหน่วยเฉพาะทางการเคลื่อนไหวระบบทางเดินอาหาร รับโอกาสรักษาผู้ป่วยในไทยสัดส่วนกว่า35% ขยายตัวกลุ่มอายุน้อย-วัยทำงาน แข่งตลาดธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่าโรงพยาบาลวิมุต ดำเนินกิจการครบรอบ2 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์หลักการรักษาโรคยาก-ซับซ้อนให้ตรงจุดและครอบคลุม พร้อมนำเทคโนโลยีทางการแพทย์รองรับความต้องการผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ ที่เข้ามารับการรักษา
ล่าสุดโรงพยาบาลวิมุต เปิดศูนย์ส่องกล้องและหน่วยเฉพาะทางการเคลื่อนไหวระบบทางเดินอาหาร (Endoscopy & GI Motility Unit) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์การให้บริการทางการแพทย์สำคัญแก่ผู้ป่วย เพื่อผลักดันไปสู่การเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ที่มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่ครบครันที่สุดในประเทศไทย
“ตลอด2 ปีนับจากเปิดให้บริการ โรงพยาลวิมุตมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการรักษาเติบโตต่อเนื่อง แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มคนไทย 80% และชาวต่างชาติ 20% ทั้งอายุรกรรมทั่วไป อุบัติเหตุ และโรคยากเฉพาะทางซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ สมอง ฯลฯ”
สำหรับการเปิดศูนย์ฯดังกล่าว เพื่อรองรับฐานผู้ป่วยในกลุ่มโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ซึ่งปัจจุบันพบมากขึ้นในกลุ่มคนอายุน้อยลงเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานคนรุ่นใหม่ เป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่รีบเร่งและเป็นหนึ่งในโรคซับซ้อนที่อัตราผู้เสียชีวิตสูง
ด้านนายแพทย์กุลเทพ รัตนโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรครับบทางเดินอาหารและตับ หัวหน้าศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่าปัจจุบันพบว่าคนไทยสัดส่วนกว่า 35% ป่วยในโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ในอาการต่างๆ
ซี่งหากไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษาที่ตรงจุด อาจเป็นต้นทางนำไปสู่ดโรคคมะเร็งเกี่ยวกับระบบทาวงเดินอาหาร เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่พบมากเป็นอันดับ2 ในผู้หญิง และ อันดับ3 ในเพศชาย และขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในประเทศไทย
โดยปัจจัยหลักที่ทำให้โรคดังกล่าวเติบโตเพิ่มในกลุ่มคนรุ่นใหม่-วัยทำงาน มาจาก รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการบริโภค และ ด้านจิตใจภายใน พฤติกรรมการขับถ่ายไม่เป็นเวลา ฯลฯ ก่อให้เกิดได้ทั้ง อาการท้องผูก ลำไส้แปรปรวน โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน เป็นต้น
จากแนวโน้มดังกล่าวโรงพยาบาลวิมุตมองเห็นโอกาสในการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางด้านดังกล่าว ด้วยเป็นหนึ่งในสี่โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยในปัจจุบัน ที่ให้บริการศุนย์ส่องกล้องและหน่วยเฉพาะทางการเคลื่อนไหวระบบทางเดินอาหารดังกล่าว ด้วยเทคโนโลยีให้การตรงจพร้อมรักษาได้ตรงจุด และยังเป็นจุดเด่นที่แตกต่างไปจากศูนย์ฯ อื่น
“เทคโนโลยีส่องกล้องฯ มีมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว แต่ในไทยมีแพทย์เฉพาะทางด้านนี้อยู่ราว 10 คนซึ่งนอกเหนือจากการใช้ความชำนาญฉพาะทางของแพทย์แล้ว การนำฟังก์ชัน เทคโนโลยีจีไอโมทิลิตี้ เข้ามาช่วยจะยังเสริมความแม่นยำในการวินิจฉัยเพื่อรับการรักษาด้วย” นายแพทย์กุลเทพ กล่าว
โดยในอนาคตศูนย์ฯดังกล่าว ยังจะต่อยอดการบริการการรักษาพร้อมดูแลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหารเพิ่มเติม โดยจะนำหลักการปรับสมดุลยโพรไบโอติกในร่างกาย มาใช้ร่วมกับการดูแลรักษาสุขภาพทั้งเชิงป้องกัน และการรักษาไปพร้อมกัน ในเร็วๆนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในตลาดที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติก ในอนาคต