กฟผ.ดึงไฟฟ้าลาว รุก 3 ธุรกิจใหญ่ เล็งขยาย Fiber Optic เชื่อมเพื่อนบ้าน

กฟผ.ดึงไฟฟ้าลาว รุก 3 ธุรกิจใหญ่ เล็งขยาย Fiber Optic เชื่อมเพื่อนบ้าน
กฟผ.เดินหน้าสร้างรายได้ เอ็มโอยู ไฟฟ้าลาว 3 ปี ลุยธุรกิจโทรคมนาคม- บำรุงรักษาโรงไฟฟ้า-Smart Energy Solution เสริมความมั่น

บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจด้านธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า และธุรกิจ Smart Energy Solutions กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) พร้อมด้วยบริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) และบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 3 พาวเวอร์ จำกัด

 

ความร่วมมือในครั้งนี้ครอบคลุมธุรกิจจำนวน 3 ด้าน เป็นระยะเวลา 3 ปี ประกอบไปด้วย1. ธุรกิจโทรคมนาคม กฟผ. และ EDL จะร่วมกันพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคมใน สปป.ลาว โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของแต่ละฝ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงโครงข่าย Fiber Optic ระหว่างประเทศไทยและ สปป.ลาว

2.ธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ซึ่งจะร่วมกันแสวงหาโอกาสพัฒนาธุรกิจการให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว ต่อไป อาทิ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 3

3.เรื่อง Smart Energy Solutions กฟผ.และ EDL จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบ Smart Energy Solutions ในส่วนของสมาร์ทไมโครกริดและแสวงหาพื้นที่ที่มีศักยภาพใน สปป.ลาว ที่สามารถพัฒนาต่อยอดระบบดังกล่าวได้

ทั้งนี้ผู้แทนของสองประเทศจะร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ ทรัพยากร และข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

อย่างไรก็ตามประเทศไทยและ สปป.ลาว เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้านพลังงานไฟฟ้ามาอย่างยาวนานเกือบ 60 ปี ทั้งการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า การพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า การซื้อขายไฟฟ้า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านเทคนิควิศวกรรม งานวิชาการ การพัฒนาบุคลากรระหว่างหน่วยงาน

ความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างสองประเทศช่วยส่งเสริมให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสานต่อความร่วมมือในการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าของทั้งสองประเทศให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่รัฐวิสาหกิจของสองประเทศจะได้แบ่งปันศักยภาพ สร้างความร่วมมือในด้านพลังงานให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมีโอกาสในการพัฒนาระบบจัดการระบบไฟฟ้า Smart Energy Solutions ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับไทยได้เริ่มเดินหน้าเรื่องนี้กันอย่างเต็มที่จึงคาดว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ สปป.ลาว เพื่อขยายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่ง กฟผ. พร้อมให้ความร่วมมือและยินดีที่จะเคียงข้างอย่างเกื้อกูลกันต่อไป

 

ด้านจันทะบูน สุกอาลุน ผู้อำนวยการใหญ่ EDL กล่าวว่า หากทั้งสององค์การมีความร่วมมือทางธุรกิจจะสามารถต่อยอดการดำเนินงานได้หลายด้าน อาทิ ระบบ Fiber Optic ซึ่งประเทศไทย และ สปป.ลาว ใช้ระบบดังกล่าวทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างกัน

รวมถึง สปป. ลาว ยังมีการเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม และกัมพูชา จึงเชื่อว่าจะสามารถขยายเป็นธุรกิจด้านโทรคมนาคมร่วมกันได้

ส่วนธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า (Operation and Maintenance หรือ O&M) ปัจจุบัน สปป.ลาว มีเขื่อนประมาณ 80 แห่งทั่วประเทศ และมีอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก ดังนั้นในอนาคตอันใกล้งานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าจะมีความต้องการสูง จึงเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมกันพัฒนาการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล และพัฒนาทรัพยากรบุคคลของ EDL ด้วย

ขณะที่ด้านของ Smart Energy Solutions เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องร่วมมือกันพัฒนาต่อยอด โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้จะนำไปสู่การศึกษารายละเอียดการดำเนินงาน หากมีเรื่องใดที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ ก็พร้อมยินดีที่จะร่วมมือกับ กฟผ. ต่อไป

 

 

TAGS: #EDL #กฟผ. #ไฟฟ้าลาว #เขื่อน #โรงไฟฟ้า #น้ำงึม3