ไทยพึ่งท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ช่วยได้แค่ไหน?

ไทยพึ่งท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ช่วยได้แค่ไหน?
จับสัญญาณความพร้อมภาคเอกชน ดันท่องเที่ยวสร้างรายได้พยุงเศรษฐกิจ  

หลังจีนประกาศเปิดเมือง อนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่ วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา หลายคนมองเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่จะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งเนื่องจากชาวจีนยังคงให้ความสนใจปักหมุดเดินทางมาท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าภาคท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว หลังจากเผชิญกับวิกฤตโควิด 2- 3 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นความหวังที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ นอกเหนือจากการส่งออกที่ปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ทั้งค่าเงินบาทที่ผันผวนและเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว เนื่องจากการท่องเที่ยวมีสัดส่วนคิดเป็น 15% ของจีดีพีประเทศ

เช้าวันนี้(6ก.พ.)  เป็นวันแรกที่นักท่องเที่ยวจีนแบบคณะทัวร์จะเดินทางเข้าไทยรวม 575 คน จากไฟล์ทบิน 14 เที่ยว  โดยกรุ๊ปแรก จำนวน 40 คน เดินทางจากเมืองกว่างโจว ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 08.05 น. ซึ่งหลังจากนี้จะทยอยเดินทางกันมาภายในวันเดียวกัน

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย จากข้อมูลที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ประเมิน คือ กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ รูปแบบกิจกรรม มีทั้งไหว้พระ ขอพร เที่ยวสตรีตฟูด และจับจ่ายใช้สอยตามศูนย์การค้า คาดจะเกิดการใช้จ่ายประมาณ 52,000 บาทต่อคนต่อทริป เป็นเวลา 6-7 วัน

ก่อนหน้านี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าชาวจีนเที่ยวไทยในปี 2566 อาจแตะ 4.65 ล้านคน หรือกลับมาประมาณ 42% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในปี 2562 แต่จะเริ่มเห็นชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส2 ของปีนี้ ตามการขยายเส้นทางการบินและความถี่ของเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น การทำการตลาดของหน่วยงานท่องเที่ยวและผู้ประกอบการมีมากขึ้น

นอกจากนี้หากไทยถูกเลือกเป็นหนึ่งในประเทศนำร่องของการฟื้นฟูการเดินทางแบบกลุ่มขนาดใหญ่ คงจะทำให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยเร่งตัวขึ้นก้าวกระโดดจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวจีนที่สำคัญ คือ ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน (ระหว่างเดือนก.ค.-ส.ค. ของทุกปี)

และช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (ในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค. ของทุกปี) และมองไปข้างหน้า ยังคงต้องติดตามมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนของต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป เป็นต้น ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจากปัจจุบัน การท่องเที่ยวระยะไกลมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าจะทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ชาวจีนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว จะเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง

ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศ การเข็นแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” รอบนี้ออกมาเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รัฐใช้งบ 2,016 ล้านบาท คาดจะสร้างรายได้หมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวกว่า 12,539 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายของการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ ททท.ตั้งเป้าหมายให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาร้อยละ 80 คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การที่จีนเปิดประเทศเป็นเรื่องที่ดีต่อการท่องเที่ยวไทยแต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาคือการปรับตัวของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องด้านท่องเที่ยว หลังจากที่ต้องออกจากระบบไปช่วง 2- 3 ปี จากสถานการณ์โควิด ทั้งพนักงานสายการบิน โรงแรม เชฟ หรือไกด์นำเที่ยว  ทุกคนต้องมีการ Reskill-Upskill หาแรงงานที่มีคุณภาพเพิ่ม เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว

ด้านคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.)  3 สถาบัน  ได้แสดงความเป็นห่วงแม้เศรษฐกิจไทยจะมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังกังวลถึงปัญหาแรงงานในภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงขาดแคลน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาแนวทางในการดึงกลุ่มแรงงานกลับเข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เพียงพอในการรองรับการฟื้นตัวดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566  จะเห็นว่ามีข้อจำกัดยังมีข้อจำกัดในการฟื้นตัว แม้แนวโน้มการท่องเที่ยวจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยังต้องใช้เวลา กว่าจะเห็นการฟื้นตัวแบบคึกคักได้ในช่วงครึ่งหลังของปี  ด้านภาคการส่งออกมีสัญญาณการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก  อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเป็นระยะๆ  ขณะที่ภาวะต้นทุนที่อยู่ในระดับสูงจากราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายของภาคเอกชน   โดยยังคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ที่ 0-3.5 %  ส่วนการส่งออกขยายตัว 1-2%

ดังนั้นสิ่งที่ภาครัฐคาดหวังจะให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัว หากมองปัจจัยเสี่ยงที่ยังรออยู่ ท่องเที่ยวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด  เพราะตอนนี้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนกำลังเป็นโจทย์หลักที่ภาครัฐต้องเร่งแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลต่อการการใช้จ่ายและเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ  ซึ่งท้ายสุดตัวเลขอัตราการเติบโตจะเป็นปรากฏให้เห็นเองว่า บรรดาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่รัฐคาดหวังจะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้แค่ไหน

 

                                                                                                                                       

 

 

 

TAGS: #ทัวร์จีน #เปิดเมือง #ท่องเที่ยว #เราเที่ยวด้วยกัน #โควิด