เบอร์เกอร์คิง กับโลคัลแคมเปญการตลาดบ้าพลัง ผ่านเมนู 'เรียลชีสเบอร์เกอร์' ปฎิบัติการชิงพื้นที่สื่อโซเชียล สร้างการรับรู้แบรนด์ระดับสุดในกลุ่ม FOMO
กลายเป็นคอนเทนต์กระแส ในโลกโซเชียล แทบทุกแพลตฟอร์ม สำหรับเมนู เดอะ เรียลชีส เบเกอร์ (The Real Cheese Burger ) ของเบอร์เกอร์คิง (Burger King) ที่เรียกเสียงฮือฮาหนักมาก กับภาพเมนูเบอร์เกอร์ใส้อเมริกันชีสทะลักโปะมาจุกๆ 20แผ่น สนนราคา 109 บาท ที่เริ่มขายแบบเอ็กซคลูซีฟ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ในร้านสาขา และในช่องทางเดลิเวอรี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ด้วยปริมาณชีสที่เรียงชั้นแบบหนาแน่น เมนูใหม่ล่าสุด ของเบอร์เกอร์คิง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่โปรดักส์ เท่านั้น แต่เป็นการทำโลคัล แคมเปญ การตลาดอันทรงพลัง ของ เบอร์เกอร์ คิง ที่สร้างการรับรู้แบรนด์Burger King ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ตามแผนธุรกิจเบอร์เกอร์คิง ประเทศไทย ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้า ผ่านแพลตฟอร์มสื่อใหม่ ที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ เรียกว่า เป็นการ ย้ำแบรนด์ ให้อยู่ในใจลูกค้าชาวไทยมากขึ้นหลังจากแบรนด์เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ 23 ปีก่อน
ต่อเรื่องนี้ 'ธนวรรธ ดำเนินทอง' ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวที่มา แนวคิดการทำตลาด เดอะเรียล ชีส เบอร์เกอร์ ของ Burger King ในครั้งนี้ ถือเป็นการทำตลาดระดับท้องถิ่น (Local Marketing) แบบเฉพาะในประเทศไทย เท่านั้น
"ไอเดียแคมเปญฯ นี้ ต้องการสร้างความตื่นเต้นในตลาดให้แก่ผู้บริโภคคนไทย ที่เราอยากจะ Go Extra ในทุกๆ แคมเปญของเบเกอร์คิง จากนี้ไป" ธนวรรธ กล่าว
สำหรับ กิจกรรมการตลาดครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จด้านการจดจำแบรนด์ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยชวนให้เหล่า KOL (Key Opinion Leaders) รวมถึง บัญชีผู้ใช้งานทั่วไปในแพลตฟอร์มต่างๆ หยิบโปรดักส์นี้มาเล่นกับช่องของตัวเองเพื่อเรียกเอ็นเกจเมนต์ ได้อย่างดี ในช่วงต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา
สอดคล้องกับตัวแบรนด์เอง ได้ส่งสารมาว่า เป็นแคมเปญการตลาดบ้าพลังจากเบอร์เกอร์คิง ที่ทำให้เหล่า food blogger ต้องลุกมารีวิวกันอย่างไม่หยุดยั้ง เข่นกัน
ขณะที่การออกสินค้าใหม่แบบสุดโต่งนี้ จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกระแส รวมถึงทำให้เกิด organic content จากตัวสินค้าเอง ถือเป็นการจับกลุ่มลูกค้าแบบ FOMO (Fear of Missing Out กลุ่มคนที่กลัวว่าตัวเองจะพลาดอะไรบางสิ่งบางอย่างไป จึงทำให้ผู้คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมเสพติดโซเชียล เพื่อติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ/)
โดยเฉพาะ ทั้งได้ voice และ visibilty แบบล้นหลาม รวมถึงตอกย้ำบุคคลิกความกวนและขี้เล่นของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
แคมเปญฯ นี้ที่นอกจากจะทัชใจกลุ่มเป้าหมายที่ เบอร์เกอร์คิง จิ้มเอาไว้แล้ว ขณะเดียวกัน ก็ยังได้กลุ่มคนรักสุขภาพ รวมไปถึงเหล่าคุณหมอทั้งหลาย ที่ออกมาทำคอนเทนต์ด้วยความห่วงใยในเมนูเบอร์เกอร์ขีสทะลักแบบนี้ อาจไม่ใช่เรื่องดี ต่อสุขภาพ มากนัก
ด้วยมีชาวโซเชียล หลายคนแสดงความเห็นโปรดักส์ใหม่นี้ จนเกิดวลีฮิตที่แชร์สะบัดในสื่อโซเชียลว่า "อร่อยถูกใจ ไตถูดตัด" ก็มี
แต่ใดๆ งานนี้ยอมแล้วว่า เบอร์เกอร์คิง เล่นไม่ยั้งบ้าพลังจริงๆ กับการออกมาสื่อสารการตลาดออนไลน์ผ่านแคมเปญนี้จนได้รับการพูดถึงในกลุ่ม FOMO จริงๆ