SBO ผู้นำเข้าและทำตลาดเครื่องครัว/เครื่องใช้ไฟฟ้า ในไทยมานานร่วม30 ปี เร่งทำตลาดเชิงรุก7 แบรนด์นำเข้าคลุมทุกเซ็กเมนต์ พร้อมลองแตะธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของพี่น้องตระกูล 'สนธิจิรวงศ์'
กฤตนัน สนธิจิรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด หรือ เอสบีโอ (SBO) กล่าวว่า บริษัทฯ นำเข้าและทำตลาดเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศ มาร่วม 30 ปี ประกอบด้วยแบรนด์ เทคโนแก๊ส, เทคโนพลัส และ เทคโนสตาร์ท วางตำแหน่งสินค้าระดับพรีเมียมแมส เพื่อทำตลาดให้ครอบกลุ่มกลุ่มเป้าหมายทุกระดับ
สำหรับแบรนด์เทคโนแก๊ส จะมีระดับราคาสินค้าตั้งแต่หลัก 10,000-100,000 บาท แบรนด์เทคโนพลัส ระดับราคา 8,000-4 หมื่นบาท และ เทคโนสตาร์ มีราคาแข่งขันได้ในตลาดทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่สนใจผลิตภัณฑ์เครื่องครัวที่ตอบโจทย์ความต้องการแตกต่างกัน
โดยในปีนี้ บริษัทวางแผนการทำตลาดเชิงรุกกลุ่มสินค้าเครื่องครัว โดยยังใช้ศิลปินนักแสดงและพิธีกร ‘นุ้ย-สุจิรา’ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่2 ด้วยยังเป็นผู้ใช้จริงแบรนด์สินค้าเทคโนแก๊ส เพื่อรีเฟรชพร้อมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความสดใส และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ในระดับบนอีกด้วย
ล่าสุดเทคโนแก๊ส ทำตลาดสินค้าเครื่องครัวในคอลเล็กชัน ‘แบล็ค ซีรียส์’ (Black Seriees) ด้วยการออกแบบทันสมัยโทนสีดำล้วนทั้งชิ้นอุปกรณ์ อาทิ เตาอบ เตาไฟฟ้า ฯลฯ เปิดตัวในไทยเป็นแห่งแรกในโลก และในในไตรมาส3 และ 4 ปีนี้ บริษัทวางแผนทำตลาดสินค้าใหม่ อาทิ อ่างล้างสำหรับห้องครัว เตาแก๊สในครัวเรือน เครื่องดูดควัน เพื่อให้สินค้าครอบคลุมการทำตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังนำเข้าเครื่องครัวระดับไฮเอนด์ จำนวน 4 แบรนด์ใหม่ โดย3 แบรนด์มาจากประเทศอิตาลี คือ เอลิก้า (Elica) บาราซซา (Barazza) และฟาบิต้า (Fabita) และอีก 1 แบรนด์จากประเทศฝรั่งเศส คือ แชมบอร์ด (Chambord) โดยได้เปิดตัวสินค้าผ่านช่องทางโชว์รูมคูซินา แกเลอเรีย (CUCINA GALLERA) บนพื้นที่ 300 ตร.ม. ตั้งอยู่ภายในบ้านเก่าแก่อายุ 150 ปี ย่านสาทร
ทั้งนี้กลุ่มสินค้าดังกล่าว จะทำตลาดผ่านการนำเสนอคาแรกเตอร์แบรนด์ของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป โดยร่วมกับการทำตลาดกับแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆที่มีแนวคิด(Concept) ในทิศทางเดียวกันเพิ่มเติม ซึ่งโชว์รูมฯ เปิดให้บริการเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา คาดใช้ระยะเวลาดูผลตอบรับก่อนตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มในอนาคต
ขณะที่ ตลาดเครื่องครัวในประเทศไทยในแต่ละกลุ่ม เติบโตเฉลี่ย 3-4% ซึ่งในอนาคตมองว่าสินค้าจะมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง เห็นได้จากผลดำเนินงานของบริษัทในช่วงโควิดที่ผ่านมาถึงปัจจุบันเติบโตเฉลี่ย 1-2 หลักเช่นกัน เป็นผลจากไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่หันมาอยู่บ้านมากขึ้น และมีกิจกรรมการทำอาหาร หรือ กระแสการเป็นเชฟที่ขยายตัวในช่วงที่ผ่านมา เช่นกัน
“นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี ที่เติบโตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มนี้มึความต้องการสินค้าเครื่องครัวเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับสูงตามมาด้วย ซึ่งในอนาคตบริษัทยังวางเป้าหมายสู่การเป็น วัน สต็อป โซลูชัน เครื่องครัวระดับไฮเอนด์ด้วย”
ปัจจุบัน บริษัททำตลาดหลักในช่องทางค้าปลีก ผ่านจุดจำหน่ายร้านค้าและออนไลน์สัดส่วน 80% และในช่องทางโครงการ 20% โดยในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท จากในปี 2565 มีรายได้ราว 970 ล้านบาท
ขยายธุรกิจใหม่ไป 'ไลฟ์สไตล์ บิสซิเนส'
ด้าน สรวิช สนธิจิรวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจและจัดซื้อ บริษัท เดอะ ซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจคูซินา แกเลอเรีย กล่าวว่าในฐานะรุ่นสองที่เข้ามาร่วมบริหารธุรกิจเอสโอบี ที่นอกเหนือจากการทำธุรกิจหลักกลุ่มสินค้าเครื่องครัวทั้ง 7 แบรนด์แล้ว ผู้ริหารบริษัทรุ่นยังเตรียมขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ซึ่งในเบื้องต้นได้นำบริการต่างๆ อาทิ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) Brave Café บริการจัดเลี้ยงแบบส่วนตัว (Private Party) ผ่านร้าน Botti Wine Bar ที่เปิดให้ยริการภายในคูซินา แกเลอเรีย ด้วย
“กลุ่มพี่น้องสนธิจิรวงศ์ ทั้ง 3คน เริ่มเข้ามาดูแลธุรกิจตั้วแต่2-3 ปีก่อน จะแบ่งความรับผิดชอบการบริหารธุรกิจตามความสามารถและความถนัด โดยมีคุณพ่อ (สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ /อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ที่จะคอยแนะนำแนวทางการทำธุรกิจบ่อยครั้ง อย่างการไดเวอร์ซิฟายด์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้องค์กรเติบโตยั่งยืนในอนาคต” สรวิช กล่าวปิดท้าย