8 อุตสาหกรรมเด่นปี'66 ตอบโจทย์เทรนด์โลก

8 อุตสาหกรรมเด่นปี'66 ตอบโจทย์เทรนด์โลก
ยานยนต์-ชิ้นส่วน-อาหารเสริม มาแรง ดีมานด์สูง หลังผ่านวิกฤตโควิด ส่งผลให้ท่องเที่ยว-กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แนะผู้ประกอบการปรับตัวคว้าโอกาสทางธุรกิจ

วรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)  กล่าวว่า ในปี 2566 อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตโดดเด่นมี 8 ประเภท คือ1. ยานยนต์ โดยเฉพาะยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นไปตามกระแสที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทรถยนต์ที่ผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าวเติบโตตามความต้องการที่มากขึ้น สะท้อนได้จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ xEV ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกประเภท  โดยนี้ตั้งเป้าการผลิตรถยนตาไว้ 1.95 ล้านคัน และรถจักรยานยนต์ 2.1 ล้านคัน

2.ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีความต้องการใช้ที่สูงขึ้นอย่างมาก จากการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรมจากตลาดโลก รวมถึงการเชื่อมโยงกิจกรรมการผลิต  เข้ากับระบบอัตโนมัติหลากหลายประเภท ช่วยผลักดันให้การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะแผ่นวงจรรวม (IC) และแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA)

3.อาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวกับสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อาหารทางการแพทย์ และอาหารสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งเครื่องดื่มสมุนไพร เติบโตจากกระแสรักษ์และดูแลสุขภาพที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง    

4.เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เช่น สามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ละอองสารพิษ ควบคู่กับการประหยัดพลังงาน การนำ AI เข้ามาใช้การควบคุมอุณหภูมิห้องหรือรับคำสั่งผ่านระบบอัจฉริยะ และการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ

5.พลาสติกชีวภาพ กลุ่มพลาสติกปลอดสารพิษและย่อยสลายได้ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รองรับเทรนด์รักษาสุขภาพและการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น 6.เภสัชภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะยาเม็ดสกัดจากสมุนไพรได้รับการตอบรับที่ดี เช่น ฟ้าทะลายโจร แคปซูลขมิ้นชัน น้ำมันหอมระเหยผ่อนคลายความตึงเครียด ลูกประคบสมุนไพร ส่งผลให้การผลิตเพิ่มมากขึ้นรองรับความต้องการทั้งภายในและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศ

7.สิ่งทอเทคนิคจากเป็นเส้นใยประดิษฐ์หรือผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ผลิตขึ้นให้มีคุณสมบัติตามการใช้งาน ย่อยสลายเองได้ มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น ผ้าทอกันน้ำ ผ้ากันไฟ จึงนิยมนำมาใช้ทั้งในผลิตภัณฑ์ที่เน้นจุดขายด้านนวัตกรรมใหม่ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

และ8.ยางล้อรถประหยัดพลังงาน ได้แก่ ยางรถยนต์นวัตกรรมใหม่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถยึดเกาะถนนได้ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมไทยในปี 2566 มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 แต่ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องปรับตัวเผชิญกับความท้าทาย ทั้งความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และภัยธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุม

ทั้งนี้อุตสาหกรรมไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตมาได้โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด โดยเริ่มมีการฟื้นตัวนับตั้งแต่กลางปี 2565 ภายหลังทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

การส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ช่วยให้รายได้กลับเข้าสู่เศรษฐกิจระดับชุมชนอีกครั้งและการดำเนินธุรกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตเริ่มฟื้นตัวรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง

รวมทั้งมีแนวโน้มจะขยายตัวดีขึ้นขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องเร่งคว้าโอกาสและปรับตัวเผชิญกับความท้าทาย และความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก

“ปีนี้คาดการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะขยายตัว 2.5-3.5%  โดยห่วงโซ่อุปทานกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ  ส่วนปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย ด้านการบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวตามการท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการทยอยเข้ามาลงทุนภายในประเทศ เงินเฟ้อและระดับราคาสินค้าเริ่มชะลอตัวลงในหลายประเทศ อาจเป็นปัจจัยหนุนให้กำลังซื้อของประเทศคู่ค้ามีโอกาสปรับตัวดีขึ้นในอนาคต”

TAGS: #สศอ. #ยานยนต์ #รถอีวี #อาหารและเครื่องดื่ม #โควิด #ท่องเที่ยว