‘วัตสัน’ ธุรกิจค้าปลีกพิเศษกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ภายใต้บริษัทเอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป ผู้นำร้านค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2539 เป็นเวลา 27 ปีในปัจจุบัน
นวลพรรณ ชัยนาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวถึงทิศทางการทำธุรกิจวัตสันในไทย ที่เตรียมเข้าสู่ปีที่ 28 ซึ่งจากนี้จะเร่งให้ความสำคัญการทำตลาดภายใต้กลยุทธ์ออฟไลน์ ทู ออนไลน์ (O2O) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มความต้องการผู้บริโภคชาวไทย ให้มีโอกาสเข้าถึงสินค้าของวัตสัน ได้ในทุกช่วงเวลาความต้องการสินค้า
“ช่องทางขายสินค้าออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำคัญของวัตสัน ที่ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ให้สามารถเข้าถึงสินค้าได้ตลอด 24 ชม. ที่ยังสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าได้ทุกไอเทม เช่นเดียวกับสาขาหน้าร้าน” นวลพรรณ กล่าว
สำหรับช่องทางขายออฟไลน์ ร้านสาขาวัตสัน วางกลยุทธ์การเลือกทำเล จะไปยังทุกพื้นที่ที่มีดีมานด์ ตามความต้องการผู้บริโภค ซึ่งมีทั้งรูปแบบร้านสาขาเดี่ยว (สแตนด์ อะโลน) และ ไปพร้อมกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ล่าสุดเปิดสาขาในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความต้องการลูกค้า ไม่จำกัดว่าจะเป็นหัวเมืองใหญ่ หรือ จังหวัดเมืองรอง
โดยในปีนี้ วัตสัน วางแผนเปิดอีก 50 สาขาใหม่ ทั้งใน กรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด
นวลพรรณ กล่าวต่อ สำหรับไอเทมสินค้าเพื่อสุขภาพลัความงาม 4 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ
1.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care)
โดยเฉพาะในกลุ่มดูแลผิวพรรณ (Skin Derma)
2.เครื่องสำอาง (Cosmetic)
3. ผลิตภัณฑ์ของใช้ดูแลส่วนบุคคล ( Personal Care)
4. หมวดเพื่อสุขภาพ (Wellness)
พร้อมกล่าวต่อถึงความท้าทายในการทำตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม-v’ วัตสัน ที่เตรียมขึ้นสู่ปีที่ 28 คือ ผู้บริโภค ที่มีการเปบี่ยนแปลงอยู่ตบลอดเวลาตลอกระยะเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่ บริษัทจะต้องติดตามข้อมูลเชิวงลึกอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ วัตสัน เองก็มีข้อได้เปรียบด้านฐานข้อมูลลูกค้า ‘ตัวจริง’ ที่ปัจจุบันมีสมาชิกลอยัลตีโปรแกรม อยู่กว่า 8 ล้านราย ซึ่งถือเป็น ‘ดาตา’ สำคัญที่ทำให้วัตสัน สามารถพัฒนาสินค้าและโปรชันต่างๆ ได้อย่างตรงตามความต้องการบลูกค้าได้อย่างแท้จริง
นวลพรรณ กล่าวปิดท้ายว่า “การดำเนินธุรกิจวัตสัน ประเทศไทย ในปี 2566 วางเป้าหมายการเติบโตในทิศทางเดียวกับภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีก ของไทย ซึ่งมีแนวโน้มดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากบรรยากาศเศรษฐกิจภาพรวมที่ฟื้นตัว”