ผลสำรวจความเชื่อมั่นค้่ปลีกพบ ของร้านสะดวกซื้อตกลงมากสุด เหตุกำลังซื้ออ่อนแอ ไร้มาตรการรัฐกระตุ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งจัดทำร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พบว่า ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกเดือนกรกฎาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 43 โดยเป็นการลดลงทุกประเภทร้านค้า นำโดยร้านสะดวกซื้อที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงมาก จากกำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ โดยเฉพาะครัวเรือนฐานราก เนื่องจากภาวะค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง และไม่มีมาตรการรัฐกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ
ขณะที่ค้าปลีกยังคงเผชิญกับภาวะต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับขึ้นราคาสินค้ามีจำกัด และยังต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น ทำให้ยอดขายและรายได้ธุรกิจลดลงซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นในปัจจุบัน และอีก 3 เดือนข้างหน้าปลับลดลงด้วย
แม้ว่าความเชื่อมั่นยอดขายสาขาเดิม ค่าใช้่จ่ายต่อครั้ง และความถี่ในการใช้บริการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 แสดงถึงกำลังซื้อที่ฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
หากพิจารณาตามภูมิภาคพบว่าความเชื่อมั่นต่อยอดขายปรับดีขึ้นในภาคเหนือและใต้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือความเชื่อมั่นปรับลดลงจากเดือนก่อนและอยู่ต่ำกว่า 50 สะท้อนการฟื้นตัวที่ไม่ทั่งถึง
นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า สภาพคล่องธุรกิจภาพรวมมีแนวโน้มลดลง สะท้อนจากสัดส่วนของธุรกิจที่มีสภาพคล่องต่ำกว่า 6 เดือน เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี 66% ของธุรกิจมีสภาพคล่องมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และ 68% ของได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย โดยส่วนใหญ่มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถชำระเงินกู้ได้ตามปกติ