เซ็นทรัล รีเทล เปิดตัว Alipay+ บริการชำระเงินดิจิทัล รับเทรนด์นักท่องเที่ยวเอเชียพุ่งต่อเนื่อง หลังไตรมาสแรกปีนี้ มีต่างชาติใช้บริการห้างสรรพสินค้าตามหัวเมืองใหญ่ พุ่ง 200%

ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี (CRC) ผู้บริหารร้านค้าปลีกในกลุ่ม เซ็นทรัล,โรบินสัน เปิดเผยว่าจากการเปิดประเทศเมื่อต้นปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางยังประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลบวกร้านค้าต่างๆในเครือเซ็นทรัลฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่ตั้งใจมาประเทศไทยเพื่อเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าชั้นนำต่างๆ

โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองใหญ่ย่านแหล่งท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สามารถสร้างยอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 200% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 (ก่อนการระบาดของโควิด-19)

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลสถิติการท่องเที่ยว พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวโซนเอเชียที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยรวมกันมากกว่า 12.46 ล้านคน

โดย 5 อันดับแรกมาจากประเทศมาเลเซีย จีน รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดียตามลำดับ พร้อมคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดจะแตะ 25 ล้านคนภายในปีนี้

ปิยวรรณ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมกับ แอนท์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม ระดับโลก เปิดตัว อาลีเพย์พลัส (Alipay+) บริการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศแบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นหนึ่งในมาร์เก็ตติงโซลูชั่น เพิ่มความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเอเชีย ทั้งจีน ฮ่องกง มาเลเซีย และเกาหลีใต้

เพื่อให้ลูกค้าชาวต่างชาติ สามารถชำระเงินดิจิทัลผ่านโลคอลโมบายวอลเล็ตที่มีอยู่แล้วได้ อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย เสมือนอยู่ในประเทศตนเอง ทั้งแอป Alipay ของจีน AlipayHK  ฮ่องกง Touch ‘n Go eWallet มาเลเซีย และ Kakao Pay ของเกาหลีใต้ ในการใช้จ่ายกับร้านค้าในเครือผ่านจุดชำระเงินกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศของร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้แก่

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต, ท็อปส์, เพาเวอร์บาย, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, มัตสึคิโยะ, ท็อปส์ วีต้า และมูจิ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายและมีทางเลือกมากขึ้นขณะท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย

สำหรับความร่วมมือกันระหว่างเซ็นทรัล รีเทล และแอนท์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัล อาลีเพย์พลัส (Alipay+) ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินดิจิทัล ให้กับลูกค้าของเซ็นทรัล รีเทล เข้าถึงบริการที่มีความหลากหลายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องไปกับพฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบันที่นิยมการชำระเงินแบบ Cashless

โดยโฟกัสไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย ที่เดินทางมายังประเทศไทย ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาช้อปปิ้งซื้อสินค้า พร้อมชำระเงินด้วย Alipay+ ผ่าน Local Mobile Wallet กับร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล

นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถรับโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับผู้ให้บริการโมบายวอลเล็ตของแต่ละประเทศมอบให้โดยตรง เพื่อนำเสนอประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่เหนือระดับและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยในอนาคตยังมีแผนที่จะขยายบริการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งในโซนเอเชีย และยุโรป”

ปิยวรรณ กล่าวว่าการเปิดตัวบริการรับชำระเงินดิจิทัล Alipay+ เป็นการยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จากการนำเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคในทุกมิติ ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์   CRC Retailligence เพื่อสร้างการเติบโตภายใน 5 ปี และก้าวขึ้นเป็นผู้นำ Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย

ด้าน สิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย บริษัท แอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า Alipay+ เป็นบริการที่ช่วยให้ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล สามารถรับการชำระเงินดิจิทัลผ่านมือถือจากกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนเอเชียได้มากขึ้น พร้อมเพิ่มประสบการณ์ให้กับนักช้อปต่างชาติเลือกซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลแบบครบวงจรตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย

“Alipay+ ถือเป็นแพลตฟอร์มของการชำระเงินดิจิทัลได้แบบไร้พรมแดนและเป็นโซลูชันการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถดำเนินการชำระเงินดิจิทัลผ่านโทรศัพท์มือถือได้หลากหลายรูปแบบ ที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงผู้บริโภคระดับภูมิภาคและทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคน ผ่านระบบการทำงานที่ง่ายดายและครบจบภายในครั้งเดียว” สิทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย