หนี้ครัวเรือนไทย 16 ล้านล้านบาท เป็นหนี้เสีย 1 ล้านล้านบาท จ่อเป็นหนี้เสียเพิ่มอีกเกือบ 5 แสนล้านบาท
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการ บริษัทเครดิตบูโร เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนไทยที่มีการจัดเก็บในระบบฐานข้อมูลของเครดิตบูโรจากจำนวนประชากร 32 ล้านลูกหนี้ คิดเป็นเงิน 13.45 ล้านล้านบาท (หนี้ครัวเรือนไทยที่รายงานอย่างเป็นทางการคือ 15.96ล้านล้านบาท กับสถาบันการเงินไทยกว่า 135แห่ง) ส่วนที่ไม่ได้จัดเก็บในระบบของเครดิตบูโรหลักๆคือ หนี้สินเชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์, เครดิตยูเนี่ยน, กยศ.เป็นต้น
หนี้ครัวเรือนดังกล่าว มีหนี้ที่มีการค้างชำระ 31-90 วัน ที่อาจจะกลายเป็นหนี้เสีย 4.75 แสนล้านบาท ลดลงมาจากไตรมาสที่ 1ของปี 2566 เดือนมีนาคม ที่มีอยู่สูง 6 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปดูไส้ในจะพบว่า 2 แสนล้านบาทเป็นหนี้กู้ซื้อรถยนต์ 1.3 แสนล้านบาท เป็นหนี้กู้ซื้อบ้านในจำนวนนี้ 9 หมื่นล้านบาท เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งก็จะสะท้อนไปที่บ้านราคาไม่แพง กลุ่มรายได้ปานกลาง รายได้น้อย นอกจากนี้ยังมีหนี้ Ploan อีก 8.6 หมื่นล้านบาท
สำหรับหนี้ที่อาจจะเป็นหนี้เสีย แบ่่งเป็น สินเชื่อบ้านอยู่ที่ 22%, สินเชื่อรถยนต์ 12%, สินเชื่อส่วนบุคคล 54% และบัตรเครดิต 57% แม้ว่าไม่น่าวิตกรุนแรง แต่ก็ไม่ควรสบายใจ เพราะการค้างชำระในส่วนของหนี้ที่มีหลักประกันเช่นรถยนต์, บ้านที่อยู่อาศัยนั้น เป็นอะไรที่ไม่น่าจะสบายใจนัก ประกอบกับประชาชนยังมีเรื่องของค่าครองชีพ, ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอีกส่วนหนึ่งที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น แรงกดดันจากค่าใช้จ่ายตรงนี้มันจะมาเบียดรายได้ที่ไม่ค่อยจะแน่นอน มั่นคง เพียงพอที่จะรองรับการเอาไปชำระหนี้ในแต่ละเดือนได้ให้ไม่เกิดการค้างชำระได้ขนาดไหน
นายสุรพล กล่าวว่า ในส่วนของหนี้ครัวเรือนตอนนี้แตะระดับ 1.03 ล้านล้านบาทอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ระดับ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.7% เมื่อไตรมาส 1ปี 2566 มันอยู่ที่ 9.5 แสนล้านบาทครับ
ไส้ในของหนี้ที่เสียไปแล้วหรือหนี้ NPLs ประกอบด้วย หนี้กู้ซื้อรถยนต์เกือบ 2 แสนล้านบาท หนี้กู้ซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัย 1.8 แสนล้านบาท หนี้ Ploan 2.5 แสนล้านบาท บัตรเครดิต 5.6 หมื่นล้านบาท หนี้เกษตร 7.2 หมื่นล้านบาท เป็นต้น ที่น่าสังเกตคือหนี้กู้มาซื้อรถยนต์นั้นมันเพิ่มขึ้นจากกลางปีที่แล้ว มิถุนายน 2565 สูงถึง 18% อันนี้ต้องยอมรับว่ากลิ่นไม่ค่อยดี
“หนี้ครัวเรือนที่เป็นหนี้เสียแล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท และเป็นหนี้คุณภาพไม่ได้ขาดชำระที่จะกลายเป็นหนี้เสียในอนาคตอีก 4.75 แสนล้านบาท โดยหนี้กู้มาซื้อรถยนต์ 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง” นายสุรพล กล่าว