รมว.พาณิชย์ เบรกขึ้นราคาข้าวถุง เรียกถกผู้ประกอบการ โรงสี ห้างค้าปลีก ร่วมกันช่วยตรึงสินค้าไปก่อนลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นมาก ซึ่งจะมีผลดีกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว แต่ขณะเดียวกันเมื่อข้าวเปลือกราคาสูงต้นทุนข้าวสารบรรจุถุงจะสูงขึ้นตามไปด้วย โดยได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาข้าวสารบรรจุถุง ให้ได้รับผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
ทั้งนี้ขอให้พิจารณาดูแลราคาให้อยู่ในความเหมาะสมกับเกษตรกรให้มีรายได้ดีขึ้น แต่อย่าให้กระทบกับผู้บริโภคจนได้รับความเดือดร้อนเกินไป ซึ่งวันนี้กรมการค้าภายในจะประชุมร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง สมาคมโรงสีข้าวไทยและห้างค้าส่งค้าปลีกต่างๆ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยออกมาประเมินสถานการณ์ราคาข้าวสารปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกออกมาตรการห้ามส่งออก เพื่อรักษาปริมาณข้าวที่เหมาะสมภายในประเทศเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง
ส่วนไทยได้ขอความร่วมมือปลูกข้าวนาปรังน้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวขาวปรับราคาขึ้นจากเดิมก.ก.17 บาท มาอยู่ที่ 22 - 23 บาทต่อก.ก. ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% ส่งผลโอกาสที่จะเห็นราคาข้าวขาวอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 บาทต่อถุง 5 ก.ก.เป็นไปได้ยาก ส่วนข้าวหอมมะลิยังทรงตัวที่ระดับ บวกลบ 200 บาทต่อถุง 5 ก.ก.
ทั้งนี้ต้องจับตาผลผลิตข้าวในเดือนก.ย. นี้จะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน โดยแนวโน้มราคาข้าวถุงในระยะสั้น เชื่อว่าผู้ประกอบการข้าวขาวยังมีสินค้าในสต๊อก แต่คงไม่มากนัก ซึ่งผู้ประกอบการบางรายตัดสินใจยกเลิกโปรโมชั่น ทำให้ราคาปรับขึ้นถุงละ 5-10 บาท