เมดพาร์ค เผยแนวโน้มคู่แต่งงานใหม่ในโลกและคนไทยมีบุตรยากขยายตัวท่ามกลางการเกิดใหม่ประชากรลดลง ดึงแพทย์เฉพาะทาง และเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ดูแล “คนอยากมีลูก”
นายแพทย์พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเมดพาร์ค กล่าวว่าจากรายงานองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า 17.5% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ หรือ 1 ใน 6 ของประชากรทั่วโลก กำลังประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก พบในประเทศที่มีรายได้สูงอยู่ที่ 17.8% และในประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยระดับปานกลาง 16.5% 1 สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเข้าถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ และอัตราการเกิดที่ลดลงของประชากรทั่วโลก
ขณะที่ เทคโนโลยีด้านการเจริญพันธุ์ กลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญของผู้ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากในปัจจุบัน และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากคู่แต่งงานทั่วโลก รวมถึงคู่แต่งงานในประเทศไทยเองก็มีแนวโน้มประสบภาวะมีบุตรยากสูงขึ้น และหันมาใช้บริการศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่ขยายตัวกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด โรงพยาบาลเมดพาร์ค ในฐานะโรงพยาบาลที่มีความชำนาญการรักษาโรคยากซับซ้อน พร้อมให้บริการด้านสุขภาพโดยแพทย์เฉพาะทางราว 30 สาขา ล่าสุดเปิดให้บริการ “ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เมดพาร์ค ไอวีเอฟ” เพื่อดูแลผู้ประสบภาวะมีบุตรยากอย่างครอบคลุม เช่น ให้คำปรึกษาสำหรับคู่แต่งงาน ตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก รักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ ฝากไข่ ฝากสเปิร์ม แช่แข็งตัวอ่อน และดูแลอย่างต่อเนื่องเมื่อผู้ใช้บริการตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ไปจนถึงการคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย และเติบโตเป็นเด็กที่มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
สำหรับ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เมดพาร์ค ไอวีเอฟ ยังได้นำอุปกรณ์รุ่นใหม่ และเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีคุณภาพระดับสากล เช่น การคัดเลือกตัวอ่อนด้วยระบบเอไอชื่อว่า ไอด้าสกอร์ (iDAScore) ซึ่งเป็นการให้คะแนนและติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนทุกตัว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Timelapse กล้องบันทึกภาพซึ่งติดตั้งอยู่ในตู้เพาะเลี้ยงตัวอ่อน Embyoscope Plus ทำหน้าที่ติดตามการเจริญเติบโตของตัวอ่อนและนำมาเรียงเป็นวิดีโอ ทำให้ไม่จำเป็นต้องนำตัวอ่อนออกมาจากตู้เพื่อส่องกล้องจุลทรรศน์แบบตู้รุ่นเก่า ซึ่งเป็นการรบกวนตัวอ่อนและมีผลต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งชิป (RFID Tags) บนภาชนะเก็บไข่ สเปิร์ม และตัวอ่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาด เช่น การสลับไข่กับสเปิร์มของคู่อื่น การสลับตัวอ่อนคุณภาพดีกับตัวอ่อนผิดปกติ เป็นต้น โดยจะนำมาใช้ควบคู่กับระบบระบุตัวตนของผู้เข้ารับบริการ เช่น การสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า โดยทุกกระบวนการของการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก จะถูกออกแบบให้อยู่ภายในศูนย์ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยไม่ต้องถูกส่งตัวไปตรวจหรือรักษาตามแผนกต่าง ๆ ร่วมกับคนไข้ทั่วไป
ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าตัวอ่อนที่ได้รับการคัดเลือกนำไปฝังในโพรงมดลูกมีคุณภาพดี และลดโอกาสการส่งต่อโรคทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูก ในขั้นตอนเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจึงได้มีการใช้เทคโนโลยีตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรม ตรวจโครโมโซมเพื่อหาความผิดปกติของตัวอ่อนอย่างละเอียด ด้วยเครื่อง Next-generation sequencing (NGS) ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 60 - 70%
หลังจากนั้น เมื่อผู้เข้ารับบริการสามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ทางศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เมดพาร์ค ไอวีเอฟ จะดูแลว่าที่คุณแม่ร่วมกับแพทย์แผนกต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง ได้แก่ สูตินรีแพทย์ กุมารแพทย์เฉพาะทางทารกแรกเกิดและปริกำเนิด กุมารแพทย์เฉพาะทางเวชบำบัดวิกฤต (NICU) กุมารแพทย์ และคลินิกนมแม่ เพื่อสนับสนุนให้ว่าที่คุณแม่และทารกน้อยมีสุขภาพดี สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้นานที่สุดเท่าที่ต้องการ โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้ชื่อว่ามีห้องคลอดและห้องพักหลังคลอดที่มีทัศนียภาพของสวนเบญจกิติ และคุ้งบางกะเจ้าที่สวยงามประทับใจ ตัวศูนย์และห้องต่าง ๆ ยังตั้งอยู่ภายในอาคารที่ติดตั้งระบบแรงดันบวก (Positive Pressure) สามารถกรองฝุ่นละออง สารปนเปื้อน เชื้อโรค แบคทีเรีย และป้องกันไม่ให้ไหลกลับเข้ามาภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับอากาศที่มีคุณภาพดีตลอดเวลาที่เข้ารับบริการภายในโรงพยาบาลเมดพาร์ค