สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยกว่า  17 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 7.1 แสนล้านบาท  จับตาปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอส่งผลกระทบ

รายงานข่าวจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 ส.ค. 66 มากกว่า 17 ล้านคน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 17,028,411 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 714,421 ล้านบาท

ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากจีน เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด จำนวน 86,484 คน รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย (79,468 คน) เกาหลีใต้ (33,680 คน) อินเดีย (30,315 คน) และเวียดนาม (25,204 คน)  โดยภาพรวม นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวและเส้นทางการบินได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นขนุน ทำให้นักท่องเที่ยวปรับลดลงในเกือบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นที่ลดลงจากสัปดาห์ก่อน ถึง 10,593 คน

ขณะที่นักท่องเที่ยวอาเซียนกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.77  (WoW) ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 555,854 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 21,282 คน คิดเป็นการหดตัวร้อยละ 3.69 (WoW) (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ส.ค. 66)

สำหรับ 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 45.9 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซียกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.33 (WoW)

ส่วนนักท่องเที่ยวจากอินเดีย เกาหลีใต้ จีน และเวียดนาม ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.71 (WoW) ร้อยละ 9.25 (WoW) ร้อยละ 6.59 (WoW) และร้อยละ 2.86 (WoW) ตามลำดับ

ทั้งนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์ถัดไป จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยราว 550,000 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และอาเซียนเป็นหลัก เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน และการมีช่วงวันหยุดต่อเนื่องของรัฐต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย แม้ว่าจะยังเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การท่องเที่ยวโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากภาวะเงินเฟ้อและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและเชื้อเพลิงในหลายภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่าทีระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน ที่สร้างความตื่นตัวให้กับหลายภูมิภาค