กรมเชื้อเพลิงฯเตรียมเสนอครม.แก้กม.ปิโตรเลียม สร้างความมั่นคงทางพลังงาน

กรมเชื้อเพลิงฯเตรียมเสนอครม.แก้กม.ปิโตรเลียม สร้างความมั่นคงทางพลังงาน
กรมเชื้อเพลิงฯเดินสายรับฟังความเห็นร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับใหม่ก่อนเสนอครม.เดินหน้าสร้างความต่อเนื่องการประกอบธุรกิจขุดเจาะสำรวจ เพิ่มแรงจูงใจการลงทุน กำหนดหน้าที่รื้อถอนแท่นให้ชัดเจน

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ  เปิดเผยหลังเป็นประธาน  ในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .ว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้งเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์นั้น  ต่อประชาชน โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนประมาณ 150 คน

การประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพ.ร.บ.พ.ศ. 2514 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง โดยจากผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ พบว่า บางหมวด บางมาตรา ของพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมและสภาพการดำเนินงานในปัจจุบัน

รวมถึงแนวโน้มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเนื่องจากข้อกำหนดต่าง ๆ ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องจึงนำมาสู่การแก้ไขพ.ร.บ. (ฉบับที่..) พ.ศ... ในครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของการแก้ไขและพัฒนากฎหมายประกอบด้วย 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การสร้างความต่อเนื่องในการประกอบกิจการปิโตรเลียม

2.หน้าที่เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียม 3. การสร้างแรงจูงใจในการลงทุนเพื่อประกอบกิจการปิโตรเลียม 4. การพัฒนาองค์กร หน้าที่ และอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายและบทกำหนดโทษ และ 5. การกำกับดูแลธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่

“การแก้ไขกฏหมายในครั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้กฎหมายดังกล่าว คาดหวังว่าจะเป็นไปเพื่อมุ่งประโยชน์ในการส่งเสริมให้การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้านทั้งในด้านการดึงดูดให้มีการลงทุนด้วยมาตรการต่าง ๆ ในขณะที่รัฐยังได้รับผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล การเพิ่มเติมแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปิโตรเลียม อธิบดี และรัฐมนตรีเพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมมีความคล่องตัว และบรรลุวัตถุประสงค์สูงสุด รวมทั้งในแง่ของความต่อเนื่องในการผลิตที่ดำเนินการอยู่แล้วให้สามารถดำเนินการต่อได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยประเทศในด้านการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืนต่อไป”

อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่อร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียมในแต่ละมาตรา ทั้งในเรื่องการต่อระยะเวลาผลิต การลดความซ้ำซ้อนของกฎหมายระหว่างหน่วยงานรัฐ การปรับปรุงบทกำหนดโทษ

ตลอดจนการเพิ่มบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการกักเก็บคาร์บอน  ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับภูมิภาคอีกครั้ง ในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมอวานี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งได้เปิดช่องทางให้ประชาชนทั่วไปหรือผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th  และเว็บไซต์กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ www.dmf.go.th ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ถึงวันที่ 14 กันยายน 2566 ด้วย ซึ่งหลังจากรับฟังความคิดเห็นจากช่องทางต่าง ๆ แล้ว จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดมาปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป

 

 

 

 

 

TAGS: #กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ #ปิโตรเลียม