“สุพัฒนพงษ์” ชี้ช่องขอสรรพสามิตขยายเวลากรอบส่วนลดราคาซื้อรถถึงสิ้นปี จากเดิมหมดเดือนก.ย.นี้ ขณะที่การดูแลค่าไฟฟ้ารอรัฐบาลใหม่สานต่อ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า เสนอให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.5 เพื่อไม่ให้เกิดช่วงรอยต่อมาตรการ โดยขอให้กรมสรรพสามิตพิจารณาขยายระยะเวลากรอบการจดทะเบียนรถอีวีที่จะสิ้นสุดภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ได้รับส่วนลด 1.5 แสนบาทต่อคันตามมาตรการ EV 3.0 เดิมระหว่างรอมาตรการใหม่ที่จะประกาศใช้ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ระดับราคารถเปลี่ยนแปลงไปทั้งนี้ในช่วงรอมาตรการในทางปฏิบัติหากมีเอกสารหลักฐานว่าได้ยื่นซื้อรถอีวี แล้วก็ควรจะได้รับสิทธิประโยชน์การสนับสนุนจากมาตรการในราคาเดิมไปถึงสิ้นปี แม้ว่าจะนำเข้ามาจดทะเบียนไม่ทัน
อย่างไรก็ตามมาตรกา EV3.5 ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยกำหนดรายละเอียดของมาตรการ ทั้งการให้ส่วนลดราคารถยนต์อีวีนำเข้า การกำหนดให้ค่ายรถตั้งโรงงานผลิตอีวี รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์กระตุ้นลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่
ทั้งนี้ยอมรับว่าการให้ส่วนลดภาษีสรรพสามิตตามมาตรการ EV 3.5 ลดน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากขณะนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมากากว่าเดิม ส่งผลให้ราคาและต้นทุนการผลิตลดลง ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายอดขายรถอีวีเพิ่มขึ้นมาก แต่รัฐบาลใหม่อาจจะปรับเปลี่ยนในรายละเอียดของมาตรการได้
ปัจจุบันมาตรการ EV 3.0 กำหนดให้เงินอุดหนุนรถยนต์อีวี 70,000 – 150,000 บาทต่อคัน และลดภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ให้กับค่ายรถอีวีที่นำเข้ารถมาจำหน่ายในประเทศ ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.2566 ดังนั้นหากไม่รีบขยายเวลามาตรการออกไป จะมีผลให้ราคารถอีวีปรับเพิ่มขึ้นกระทบต่อผู้ซื้อได้
นายสุพัฒพงษ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการลดค่าไฟฟ้า ในฐานะที่ทำงานรัฐมนตรีพลังงาน มองว่า สามารถทำได้ แต่จะทำได้อย่างไรขึ้นอยู่กับรัฐมนตรพลังงานคนใหม่และนโนบายพรรครวมไทยสร้างชาติวางแผนไว้อย่างไร