CMG ปักหมุดไทย ฮับแบรนด์แฟชัน อาเซียน ลงงบฯ1.3 พันล.ดันรายได้หมื่นล.ปี66

CMG ปักหมุดไทย  ฮับแบรนด์แฟชัน อาเซียน  ลงงบฯ1.3 พันล.ดันรายได้หมื่นล.ปี66
เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ลงทุนใหญ่กว่า 1,300 ล้านบาท เร่งสปีดเติบโต ‘ขยายแบรนด์-ขยายแพลตฟอร์ม’ วางเป้ารายได้สินค้าแฟชันกว่า 1 หมื่นล้านบาท สิ้นปี66

เอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (cmg) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า cmg มองเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจแบรนด์สินค้าแฟชันในปีนี้ ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงตามเทรนด์อุตสาหกรรมแฟชั่น และความต้องการของตลาด

โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแบรนด์แฟชั่น มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดคิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมดของ cmg  โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจแบรนด์แฟชั่นพรีเมียม รวมถึงแฟชั่นแนวสตรีทที่เน้นการสวมใส่สบายมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ มาจากปัจจัยพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Z และรูปแบบการใช้ชีวิตผู้บริโภคคนไทยที่มีความทันสมัยในเรื่องแฟชั่น (fashion-forward customers) มากที่สุดในเอเชีย

จากแนวโน้มดังกล่าว cmg ได้มุ่งสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้กับสินค้า เพื่อดึงดูดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าจำนวนมากทั้งจากไทยและจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่น ให้เข้ามาจับจ่ายสินค้าในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และยังส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย

ด้าน จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (cmg) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเสริมว่า ธุรกิจสินค้าแฟชั่น ถือเป็นธุรกิจหลักที่เป็นกำลังสำคัญของ cmg ด้วยสินค้ามากกว่า 20 แบรนด์ดังระดับโลก ครอบคลุมตั้งแต่ Luxury, Premium และ Mainstream segment

โดยถือเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตลาดนี้ ด้วยการทำตลาดแบรนด์ในทุกกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ Polo Ralph Lauren, Emporio Armani, Calvin Klein, Guess, Tommy Hilfiger, Casio, MLB, A|X Armani Exchange, G2000, Lee, Wrangler, Jockey , John Henry, FitFlop, Skechers, Crocs และ Hush Puppies

ทั้งนี้ cmg ยังใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการแบรนด์ในพอร์ตฟอลิโออย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้ความสำคัญกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน พร้อมจัดหาแบรนด์ใหม่ๆ มาเสริมในทุกไตรมาส เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ขณะเดียวกันยังขยายกลุ่มประเภทของสินค้าให้หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์  พร้อมเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ cmg เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น การเปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแต่ละแบรนด์สินค้า, การสร้างร้านค้าบน Tiktok และการทำ ไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไปพร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรการทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่ ไปพร้อมกัน ฯลฯ

นอกจากนี้ cmg ยังมีจุดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นของแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 1,900 จุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ cmg ทำนิวไฮเติบโตมากกว่า 16% ด้วยยอดขายตลอดช่วงเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 (ก่อนโควิด-19) และเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้    

โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงสุด คือ แบรนด์ในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ที่เติบโตถึง 131% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 (ก่อนโควิด-19)  และเติบโตขึ้น 49% เทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา

 

 

 

TAGS: #เซ็นทรัล #มาร์เก็ตติ้ง #กรุ๊ป #CMG #แบรนด์ #แฟชันรีเทล