ผลวิจัย Klook ชี้ ชาวมิลเลนเนียล และ Gen Z พร้อมจ่ายหนักกว่า2เท่าของรายได้ เพื่อออกเดินทางท่องเที่ยว เน้นกิจกรรมประสบการณ์ใหม่มากกว่าจุดหมายปลายทาง Top3 เดสติเนชันยอดนิยมในลิสต์ ญี่ปุ่น ไทย สิงคโปร์

เอริค น็อก ฟาห์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Klook เผยผลสำรวจ ของ Klook ระบุ นักเดินทางพร้อมจ่ายเพื่อการท่องเที่ยว โดย 1 ใน 3 ของนักเดินทางชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z พร้อมจ่ายสำหรับการท่องเที่ยวสูงถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือมากกว่า เทียบเป็นมูลค่าที่สูงกว่ารายได้เฉลี่ยต่อเดือนของชาวเอเชียเกือบถึงสองเท่า โดยรายได้เฉลี่ยของชาวเอเชียอยู่ที่ประมาณ 1,069 ดอลล่าร์สหรัฐ

“ในยุคสมัยใหม่ของการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและสร้างคุณค่าให้กับการเดินทางโดยเฉพาะในกลุ่มชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z พบว่าประสบการณ์และกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวกำลังมองหา” เอริค กล่าว

โดยเป็นสิ่งแรก ที่คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้วางแผนที่จะจอง พบว่า 85% ของนักท่องเที่ยวเต็มใจที่จะจ่ายเงินสำหรับการทำกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด แนวโน้ม (เทรนด์)ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความหลงไหลและความชื่นชอบในการได้ทดลองและได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ

ขณะที่สื่อที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับชาวมิลเลนเนียลมากที่สุดคือโซเชียลมีเดีย เหนือกว่าเว็บไซต์ search engines และเว็บไซต์ท่องเที่ยวอื่นๆ

ทั้งนี้ ประสบการณ์และกิจกรรมท่องเที่ยวคือสิ่งที่เพิ่มคุณค่าให้กับทริปของชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z  และเมื่อการเดินทางเริ่มกลับมาทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับกิจกรรมการท่องเที่ยว และตัดสินใจเลือกเดินทางไปยังจุดหมายใดๆ จากการเลือกกิจกรรมและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประเทศนั้นๆ

โดย 63% ของนักท่องเที่ยวจองกิจกรรมท่องเที่ยวล่วงหน้าก่อนเดินทาง มากกว่า 90% ของชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ โดย 85% เผยว่ามีความสนใจที่จะใช้จ่ายสำหรับการทำกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้วันหยุดของพวกเขาคุ้มค่าและน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย, เวียดนาม,จีน และอินเดีย มีความต้องการที่จะใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับกิจกรรมธรรมชาติกลางแจ้ง เช่น ทัวร์เกาะ, กิจกรรมทางวัฒนธรรม อาทิเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น

ขณะที่สิ่งน่าแปลกใจคือ กลุ่ม Gen Z ที่เป็นคนอายุน้อยและเพิ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่นาน พร้อมใช้จ่ายเรื่องการท่องเที่ยวในมูลค่าใกล้เคียงกับกลุ่มมิลเลนเนียล โดย 1 ใน 5 ของ Gen Z เผยว่าเต็มใจใช้จ่ายเงินเกิน 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐสำหรับการท่องเที่ยว ในขณะที่ 1 ใน 4 ของกลุ่มมิลเลนเนียลเต็มใจใช้จ่ายเงินมากกว่า 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐสำหรับการท่องเที่ยว

ผลการวิจัยยังเปิดเผยว่า นักเดินทางที่ใช้เงินมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกคือคนจีน (58%) และฮ่องกง (39%) โดย 2 ประเทศนี้ครองตำแหน่งผู้นำที่พร้อมใช้เงินมากกว่า 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐในการเดินทางครั้งต่อไป

โซเชียลมีเดีย สร้างแรงบันดาลใจ

ขณะเดียวกัน ชาวมิลเลนเนียล และ Gen Z ยังใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเพื่อค้นหาทริปเดินทางครั้งต่อไป

โดยโซเชียลมีเดีย คือ เครื่องมือยอดนิยมอันดับหนึ่งของชาว Gen Z ในการสร้างแรงบันดาลใจและค้นหาเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งใช้โซเชียลมีเดียในการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว โดยผลวิจัยเผยว่าชาว Gen Z ใช้โซเชียลมีเดียมากกว่า Search engines และบล็อกท่องเที่ยว

ในขณะที่นักเดินทางกลุ่มมิลเลนเนียล ยังคงใช้ Search engines เป็นอันดับหนึ่ง (59%) ตามมาติดๆ ด้วยโซเชียลมีเดีย (55%)  นอกเหนือไปจากนั้น 9 ใน 10 ของมิลเลนเนียลและ Gen Z เผยว่า พวกเขาตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก่อนทำการจองกิจกรรมการท่องเที่ยว และมีแนวโน้มที่จะเชื่อและต้องการคำแนะนำจากโซเชียลมีเดียเมื่อวางแผนทริปท่องเที่ยว

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชาวไทยใช้ค้นหาและสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการท่องเที่ยวได้แก่  Facebook (84%)  ตามมาด้วย TikTok (79%) และ Instagram (68%)

เอริค กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การค้นหาแรงบันดาลใจด้านการท่องเที่ยวและวางแผนการท่องเที่ยวโดยใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสื่อในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ที่สามารถดูได้ผ่านมือถือ

“โซเชียลมีเดีย กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้กับชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z ด้วยลักษณะของโซเชียลมีเดียที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวการท่องเที่ยวและสามารถรีวิวแนะนำติชมได้แบบทันท่วงที” เอริค กล่าว

เทรนด์ดังกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่าชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z มีความต้องการที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป และต้องการให้การท่องเที่ยวของพวกเขาเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นที่สุด”

วางแผนก่อนเที่ยว ปักหมุดไม่ไกล

นอกจากนี้ ชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z ยังเป็นผู้ให้ความสำคัญกับการวางแผนและจัดการทริปท่องเที่ยวของตัวเอง

โดยผลวิจัยพบว่า 65% วางแผนการเดินทางวันหยุดของตนอย่างน้อย 2-6 เดือนล่วงหน้า โดยพบว่านักท่องเที่ยวที่ใช้เวลาวางแผนนานที่สุดได้แก่ สิงคโปร์ 74% และออสเตรเลีย 57% ในขณะที่เกือบครึ่งของนักเดินทางจากจีน เวียดนาม และไทยวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้าน้อยกว่า 2 เดือน

ขณะเดียวกัน ผลวิจัยยังบอกว่า ชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z มีความสนใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้มากขึ้น โดย 60% บอกว่าสนใจที่จะเที่ยวภายในประเทศของตนเอง และ 30% สนใจที่จะเที่ยวในแถบประเทศเอเชียแปซิฟิก

โดย 3 จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่อยู่ในลิสต์ของพวกเขาได้แก่ ญี่ปุ่น, ประเทศไทย และสิงคโปร์ จากผลการวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักเดินทางรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมและประสบการณ์ใหม่ๆ มากกว่าจุดหมายปลายทางนั่นเอง