สมาคมโฆษณาดิจิทัล เผยนักการตลาด โยกงบลงสื่อโฆณาดิจิทัล 5 ช่องทางสูงสุด รับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนใช้เวลาออนไลน์เฉลี่ย 9.6 ชั่วโมงต่อวัน พร้อมรับมือ AI เปลี่ยนโลกอนาคตการทำงานทั้งระบบ

ภารุจ ดาวราย นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT กล่าวในงาน DAAT DAY ครั้งที่ 8 ประจำปี 2566 ว่า DAAT ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) สำรวจงบโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัล ของไทยในปีนี้ มีมูลค่าราว 28,999 ล้านบาท เติบโต 13% ซึ่งเป็นอัตราเกินคาดที่วางไว้ก่อนหน้าในอัตราเลขหลักเดียว

โดยการเติบโตมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.ความเชื่อมั่นในการลงทุนจาก_พรวมเศรษฐกิจที่เริ่มทยอยฟื้นตัวจากต้นปี ทำให้นักการตลาด แบรนด์สินค้า หันกลับมาใช้งบฯการทำตลาดสินค้าในช่องทางสื่อออนไลน์มากขึ้น จากในช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจชะลอการใช้เม็ดเงินลงทุนในส่วนดังกล้าว และ 2. ภาคเอกชนธุรกิจอาหารและนักท่องเที่ยว (Food & Traveler) ฟื้นตัวกลับมา ส่งผลบวกต่อบรรยากาศเศรษฐกิจในภาพรวม

ขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภค (Audience) ในปัจจุบันที่มีอายุเฉลี่ย 18-50 ปี ต่างหันมาใช้เวลาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ประเภทต่างๆ มากขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 9.6 ชั่วโมงต่อวัน และคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ใช้ไปกับการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ (e-commerce) ซึ่งมีการเติบโตกว่า 92% จากในปี 2565

ขณะที่ การเติบโตอีคอมเมิร์ซ จะมาจาก การขยายตัวในช่องทางต่างๆ อาทิ อีมาร์เก็ตเพลส, แบรนด์ ดอท คอม, ออนไลน์ ช้อป และ ติ๊กต๊อกช้อป

โดยกลุ่มธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนบนสื่อดิจิทับลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ

กลุ่มสกินแคร์                                 3,268 ล้านบาท

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์             2,520 ล้านบาท

กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์     2,228 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจการสื่อสาร                     2,190 ล้านบาท

กลุ่มร้านค้าปลีก                             1,682 ล้านบาท

ทั้งนี้กลุ่มเครื่องสำอาง นัยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง จากอัตราการเติบโตแบบด่าวกระโดดที่ 139%

โดยช่องทางที่นักการตลาดลงทุนในโฆษณาดิจิทัลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ

1. เมตา (Facebook และ Instagram) มูลค่า  8,183 ล้านบาท

ลดลงจากปี2565          ราว 6%

2. YouTube                                        มูลค่า 4,751 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจากปี2565        ราว 34%

3. ออนไลน์วิดีโอ                               มูลค่า 2,254 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจากปี 2565       ราว 4%

4. การลงทุนทางด้านการสร้างสรรค์ผลงาน หรือ ครีเอทีฟ

มูลค่า 2,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ราว 32%

5. TikTok                                            มูลค่า 2,048 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจากปี 2565       ราว   95%

โดยนักการตลาด หรือ แบรนด์สินค้าจะใช้เม็ดเงินมากสุดตามลำดับ คือ การสร้างการรับรู้ (Awareness) 40-50% และที่เหลือ 50-60% แบ่งออกเป็น การสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) การทำคอนเวอร์ชัน (Conversion) และ อีคอมเมิร์ซ พร้อมมองว่าภายในอีก5 ปีหน้านับจากนี้ นักการตลาดรุ่นใหม่จะหันมาใช้เม็ดเงืนสื่อโฆษณาดิจิทัลแซงหน้าสื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม (Traditional Media)  

มีเดีย เอเยนซี ปรับตัวรับมือ AI

ภารุจ กล่าวอีกว่าแนวโน้ม การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะทยอยเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความพร้อมในแต่ละเอกชนธุรกิจต่างหันมาเก็บรวบรวมข้อมูล (Data) ของตัวเองด้านต่างๆ อาทิ ชื่อ ที่อยู่ อีเมล ที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงข้อมูลความเกี่ยวกับความสนใจ ฯลฯ ที่นำไปสู่รูปแบบ First Party Data

ทั้งนี้ เพื่อนำประโยชน์จากชุดข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์แผนกลยุทธ์การทำตลาดร่วมกัน ระหว่างแบรนด์สินค้าและ ตัวแทนสื่อโฆษณา เพื่อให้ได้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้แบบตัวต่อตัว (Personalized)

“บทบาทเอไอ จะเข้ามาปรับการทำงานร่วมกันระหว่างแบรนด์ เอเยนซี ให้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้อัตโนมัติกลมกล่องมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเข้ามาช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในงานรูทีนที่ต้องทำประจำได้อีกมาก และมองว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นในปีหน้า” ภารุจ กล่าว

พร้อมยกตัวอย่างเสริม จากในอดึตการยิงโฆษณา หรือการทำ รีทาร์​เกตติงไปยังกลุ่มเป้าหมาย อาจต้องใช้บุคลากร ทีมงานจำนวนมาก ดำเนินการกรอกข้อมูลตามขั้นตอนเดิมๆ ซ้ำ แต่เมื่อนำ เอไอ มาประยุกต์ใช้จะช่วยลดขั้นตอนดังกล่าวออกไป แต่ได้ประสิทธิผลคืนกลับมาในอัตราเดิม หรือ มากกว่าด้วยซ้ำ

โดยภาคแรงงาน ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมครีเอทีฟ มองว่าจะต้องปรับตัวไปสู่รูปแบบโคอินเวนเตอร์ (Co-Inventor) การทำงานเชิงนวัตกรรมร่วมกัน  และการเป็นคูเรเตอร์ (Curator)การเป็นผู้ดูแล/ควบคุม เพื่อสร้างสรรค์การทำงานร่วมกันระหว่างเอไอ ที่จะเข้ามาช่วยลดขั้นตอนการถ่ายทอดงานวิชวล ได้รวดเร็วมากขึ้นและตรงกลุ่มเป้าหมาย จากการป้อนชุดข้อมูลต่างๆที่มีอยู่เข้าไป ก่อนถึงขั้นตอนการตัดสินใจเลือกชิ้นงานในขั้นสุดท้าย จากมนุษย์ให้ได้ผลงานที่ดีขึ้นกว่าเอไอ  

“จากเดิมคนทำงานในอุตสาหกรรมฯนี้ วางบทบาทเป็น ผู้คิดริเริ่ม (Originator) ที่อยู่ในยุคและทำหน้าที่เชื่อมโยงทางความคิดในแต่ละจุด (Connecting the Dots)” ภารุจ กล่าว   

ปีหน้าสื่อดิจิทัล ยังยืนเติบโต 2 หลัก

ภารุจ กล่าววาในปี 2567 หากไม่มีปัจจัยลบด้านอื่นนอกเหนือการคาดการณ์ คาดว่าเม็ดเงินสื่อโฆษณาดิจิทัลในไทย จะยังมีอัตราการเติบโต2 หลักต่อเนื่องจากในปีนี้ โดยมีปัจจัยบวก ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาพรวม จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้นายเศรษา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนล่าสุด