เปิดนำเข้าเสรีน้ำมันสำเร็จรูปหวังลดราคาพลังงาน รัฐต้องปลดล็อกกฏเหล็กหลายเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รมว.ป้ายแดง พลังงาน ประกาศชัดเดินหน้าลดราคาค่าน้ำมัน ค่าไฟ ช่วยลดภาระประชาชน ชูเป็นนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติที่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย

ประเด็นที่เป็นไฮไลท์หยิบขึ้นมาเพื่อหวังให้ราคาน้ำมันในไทยถูกลง ก็คือ การเปิดให้นำเข้าเสรีน้ำมันสำเร็จรูป เรียกว่าใครก็สามารถนำเข้าน้ำมันได้  หั่นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากค่าการกลั่น  และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่รัฐควบคุมไม่ได้ น่าจะทำให้ราคาน้ำมันถูกลงบ้าง

จากการสอบถามกรมธุรกิจพลังงานพบว่า ปัจจุบันเปิดให้มีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีอยู่แล้ว แต่จะต้องเป็นผู้ประกอบการมาตรา 7 ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจน้ำมัน  ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ มีอยู่  51 ราย

ที่สำคัญใครจะนำเข้าน้ำมันจะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาเห็นชอบให้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2552 

สาระสำคัญคือ 1.การนำเข้าเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในโรงงานอุตสาหกรรมเคมีปิโตรเลียมและสารละลาย ที่ได้จดทะเบียนไว้กับกรมสรรพสามิตและต้องใช้ในกิจการตนเองเท่านั้น  

2.การนำเข้าเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือนำไปใช้ผสมน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้เป็นเพลิง ซึ่งต้องเป็นผู้ค้ามาตรา 7  ที่ต้องเป็นผู้ค้าน้ำมันที่มีปริมาณการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ละชนิดหรือรวมกันทุกชนิดปีละตั้งแต่ 100,000 เมตริกตัน หรือประมาณ 120 ล้านลิตรขึ้นไป หรือ ผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพียงชนิดเดียวปีละตั้งแต่ 50,000 เมตริกตันขึ้นไป

ทั้งนี้การนำเข้าดังกล่าวจะต้องมีแผนการนำเข้าชนิด  ปริมาณ และระยะเวลาการนำเข้าครั้งละไม่เกิน 1 ปี ที่ผ่านมาการเห็นชอบของกรมธุรกิจพลังงาน และยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสถานที่เก็บ สถานที่จำหน่าย เพื่อเก็บตัวอย่างวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์

กฏเหล็กของการนำเข้าน้ำมันแม้จะมีมานานแล้ว แต่น่าจะเหมาะกับผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่าจริงๆ  ในขณะที่ความตั้งใจของรมว.พลังงาน ต้องการให้เกิดการแข่งขันการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีเพื่อกดราคาให้ถูกลง ซึ่งเป็นไอเดียที่ดี ไม่ผิด แต่ในทางปฏิบัติคงต้องปลดล็อกในหลายเรื่องๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น

ข้อกังวลก็คือ การนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปโครงสร้างราคายังต้องถูกเก็บภาษีศุลกากร  ภาษีสรรพสามิต  เก็บเข้ากองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

ขณะเดียวกันจะต้องมีสเปคน้ำมันให้สอดคล้องกับมาตรฐานเครื่องยนต์ในประเทศไทย หรือกรณีที่ต้องการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาใช้เอง ที่มีสเปคเฉพาะเพื่อใช้กับรถยนต์บางประเภทเช่นรถซุปเปอร์คาร์ หรือเครื่องยนต์อื่นๆ ก็ต้องแจกแจงรายละเอียด เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าเพื่อขายต่อทำกำไร

ถึงตอนนี้คงต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนจาก ‘พีระพันธุ์’ ในการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการ  ถึงการนำเข้าเสรีน้ำมันสำเร็จรูป  จะเปิดทางให้กับใครทำได้บ้าง  เอกชนกลุ่มไหน ที่จะได้ประโยชน์เพื่อการนี้  แต่หลักสำคัญจะต้องทำให้ประชาชนได้ใช้ราคาน้ำมันที่ถูกจริงๆ ตามที่ได้ประกาศไว้