รู้จัก ‘ลาเกอร์-ดังคุล-ไวเซ่น’ สูตรเบียร์ 'คาราบาว-ตะวันแดง' 2 ยี่ห้อใหม่ชิงตลาดเบียร์ 2.6 แสนล.

รู้จัก ‘ลาเกอร์-ดังคุล-ไวเซ่น’  สูตรเบียร์ 'คาราบาว-ตะวันแดง'  2 ยี่ห้อใหม่ชิงตลาดเบียร์ 2.6 แสนล.
ในช่วงส่งท้ายปี2566นี้ ตลาดเบียร์มูลค่า 2.6 แสนล้านในบ้านเรา เข้าโหมดบันเทิงมากขึ้น หลังบิ๊กคาราบาวแดง ‘เสถียร เสถียรธรรมะ’ เตรียมเปิดตัวเบียร์ยี่ห้อใหม่ ‘คาราบาว’ และ ‘ตะวันแดง’ มาแนะนำตัวกับสายดื่ม

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ‘สเถียร เสถียรธรรมะ’ ประธานกรรมการ บริษัท ตะวันแดง 1999 จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ออกมาเผยคลิป‘ทีเซอร์’  (Teser) ผ่านเพจเฟซบุ๊คคาราบาว ตะวันแดง เบเวอเรจ (Carabao Tawandang Beverage) บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์การทำโรงเบียร์ระดับโลกสูตรมาตรฐานเยอรมัน

คลิปวิดีโอนี้ คาดถูกปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อย ก่อนเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลุ่มเบียร์​แบรนด์ใหม่ ที่ท้ายคลิป เสถียร บอกว่า เรามี2แบรนด์อยู่ในมือแล้ว คือ ‘คาราบาว’ และ ‘ตะวันแดง’

โดยทีเซอร์ ดังล่าวได้บอกเล่าจุดเริ่มต้น ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ จนถึงความสำเร็จในการทำโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ที่ ‘เสถียร’ มักถูกตั้งคำถามจากลูกค้าอยู่ประจำว่า “ทำไมไม่เอาเบียร์รสชาติดีขนาดนี้ของโรงเบียร์มาใส่ขวดขาย”

เสถียร บอกว่า “การทำธุรกิจเบียร์นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยเจ้าตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และความไม่พร้อมที่จะเอาธุรกิจที่ทำอยู่ตอนนั้น คือ ‘คาราบาวแดง’ เข้ามาเสี่ยง ’ทำให้เขาตัดสินใจยังไม่ลงมาแข่งขันในธุรกิจเบียร์และเก็บความคิดนี้เอาไว้มาโดยตลอดกว่า 20 ปี

ทว่าในวันนี้ “เรามีความพร้อมในการทำเบียร์แล้ว  และเราจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” เสถียร ย้ำถึงความมั่นใจ

จากประสบการณ์การทำธุรกิจ สู่แนวคิดในการสร้างสินค้าใหม่ เริ่มตั้งแต่วิธีคิดไปจนถึงลงมือทำ กับความท้าทายในเรื่องรสชาติและการผลิต เพื่อให้คนไทยทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ระดับโลก

ด้วยโจทย์ใหญ่ที่รับมาจากความต้องการลูกค้า คือ คุณภาพและรสชาติ มาตรฐานเดียวกับเบียร์สดของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ทำให้ เขาต้องกลับไปจุดกำเนิดของเบียร์ระดับโลกในประเทศเยอรมันนี พร้อมทำงานร่วมกับ บริว มาสเตอร์ นักปรุงเบียร์สัญชาติเยอรมัน และ สถาบันวิจัย LVB Berlin ที่อยู่มานานแล้วกว่า 150 ปี

เพื่อให้ได้เบียร์สูตรและรสชาติสไตล์เยอรมันขนานแท้ ผลิตภายใต้ German Purity Law (กฎการทำเบียร์เยอรมัน) ด้วยวัตถุดิบมอลต์ ฮอบส์ และยีสต์เท่านั้น จนได้รสชาติที่หนักแน่นและนุ่มนวล สามารถแข่งขันกับเบียร์นำเข้าจากต่างประเทศ และตลาดเบียร์พรีเมียมในประเทศ ได้

สำหรับตำรับเบียร์สดรสเยอรมันของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ที่ ‘เสถียร’ ใช้เป็นโจทย์ใหญ่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เบียร์น้องใหม่เข้าสู่ตลาด คือ

ลาเกอร์เบียร์ (Lager Beer)

เบียร์สีทอง ที่ใช้ยีสต์ชนิดจมเป็นเชื้อ หมักบ่มนานถึง 28 วัน รสชาตินุ่มลิ้น ฟองเบียร์น้อย มีกลิ่นหอมของดอกฮ๊อป อบอวลชวนดื่ม ปริมาณแอลกอออล์ประมาณ 5%

ดุงเกลเบียร์ : Dunkel Beer

รู้จักกันในชื่อของ “เบียร์ดำ” เพราะสีของเบียร์จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หมักบ่มนาน 28 วัน มีรสหวานเจือรสขมจางๆของมอลต์ที่คั่วจนหอมแล้วเป็นสีดำ ปริมาณแอลกอออล์ประมาณ 4.5%

ไวเซนเบียร์ : Weizen Beer

เบียร์กลิ่นผลไม้ ใช้ยีสต์ชนิดลอยเป็นเชื้อ มีระยะเวลาหมักบ่ม 19 วัน ผลิตจากมอลต์ที่ได้จากข้าวสาลี หรือผลไม้ ฟองมากนุ่มลิ้น มีกลิ่นหอมรสผลไม้ ปริมาณแอลกอออล์ประมาณ 5.5%

สอดคล้องกับที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ‘เสถียร’ จะทำเบียร์ประเภท ‘ลาร์เกอร์’ 100% มอลล์ และเบียร์ ดุงเกล (Dunkle) หรือเบียร์ดำ ด้วยแบรนด์ ‘คาราบาว’ ส่วนเบียร์ประเภท ‘ไวเซน’ หรือเบียร์จากวัตถุดิบข้าวสาลี และอีกตัวคือเบียร์โรเซ่ (Rose) สำหรับแบรนด์ ‘ตะวันแดง’ เป็นวีทเบียร์ผสมราสเบอร์รี่ ที่สะท้อนจุดเด่นจากการเป็นโรงกลั่นเบียร์เฉพาะตัว มาเป็นจุดขายในการเข้าตลาดเบียร์

โดยคาดว่า เบียร์เยอรมันตะวันแดงในรูปแบบขวดจะออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ เพื่อให้ทันกับตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลเฉลิมมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 นี้

สำหรับการเข้ามาในตลาดเบียร์ครั้งนี้ ‘เสถียร’ บอกว่าใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตราว 400 ล้านลิตร พร้อมวางตำแหน่งสินค้าในกลุ่มเบียร์สแตนดาร์ด มีส่วนแบ่งตลาดราว 20% และ ในกลุ่มเบียร์ อีโคโนมี ที่มีมูลค่าตลาดมากว่า 1.5 แสนล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมเบียร์กว่า 2 แสนล้านบาท และขยายการเติบโตต่อเนื่องทุกปี

เสถียร บอกว่า “ด้วยรสชาติ คุณภาพมาตรฐานเบียร์สไตล์เยอรทมันแท้สูตรเดียวกับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง จะเป็นจุดเด่นที่ทำให้ เบียร์น้องใหม่ของ คาราบาว ตะวันแดง เบเวอเรจ เข้าไปแข่งขันในตลาดระดับสากล ได้ไม่ยากมากนัก