ส.อ.ท.ลุ้น TesLa ปักหมุดในไทย กระตุ้นลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า เชื่อน้ำมันแพง คนแห่ใช้รถ EV มากขึ้น ขณะที่ภาพรวมยอดขายในประเทศลดลงจากกฏเหล็กลิสซิ่งกู้ไม่ผ่าน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ภาพรวมการผลิตรถยนต์ในเดือนสิงหาคม 2566 มีทั้งสิ้น 150,657 คัน ลดลง ร้อยละ 12.27 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย 8 เดือนแรกผลิตได้ 1,221,878 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 3.13
ด้านการผลิตเพื่อขายในประเทศ เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 61,996 คัน เท่ากับร้อยละ 41.15 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 26.20 และ ช่วง 8 เดือน ผลิตได้ 516,010 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้ 8.5 แสนคัน โดยมีปัจจัยจากกลุ่มรถกระบะมียอดขายลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่8 หลังสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อจากความกังวลหนี้ครัวเรือนที่สูง ขณะที่ผู้ยื่นกู้มีภาระหนี้จากบัตรเครดิตทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์
ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 60,234 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 3.62 จากยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 36.3 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 11.69 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 524,784 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.21 โดยแบ่งเป็น รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 429,136 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 16.46
ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 41,844 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 837.79 รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,585 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 39.54 รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 52,219 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.31
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ช่วง 8 เดือน มีจำนน 724,423 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ19.53 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออก 456,983.86 ล้านบาท
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า(EV)มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า EV3.5 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องจากมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลงในเดือนธ.ค. 2566 โดยเฉพาะการให้ส่วนลดราคารถยนต์ 1.5 แสนบาทหากรัฐกำหนดออกมาชัดเจน ทางค่ายรถยนต์จะได้เตรียมแผนการขายไว้ล่วงหน้า ขณะเดียวกันจะเป็นการกระตุ้นให้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ในไทยมากขึ้น
ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้คนใช้รถหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะขณะนี้บางรุ่นมีราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
“กรณีนายกรัฐมนตรีมีโอกาสหารือกับผู้บริหารTesla ชักชวนมาลงทุนในไทย ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้เกิดการลงทุนอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามมาด้วย โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งนี้ตลาดรถEVในไทยเติบโตต่อเนื่อง ภาครัฐต้องเร่งออกแพคจเกจ EV 3.5 เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุน และเพิ่มการส่งออกมากขึ้น”
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนสิงหาคม 2566 มียอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,076 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 293.92 ส่งผลให้ 8 เดือน มียอดจดทะเบียนสะสม 59,025 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 433.05 ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV มีจำนวน 59,196 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 37.37 และยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 8,518 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 10.49