วิสซ์ ดอม ดึง 5 เทรนด์ความต้องการเชิงลึกคนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูงมีรายได้มากกว่า 1 แหล่ง ทำคอนโดหรู ย่าน CBD ผ่านแบรนด์วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน เริ่มต้น 7.9 ล.บาท รับความเจริญระดับโลก ย่านพระราม 4

อัษฎา แก้วเขียว ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียมในซีรียส์วิสซ์ดอม (Whizdom) ภายใต้แบรนด์ วิสซ์ ดอม คราฟท์ (Whizdom Craft) วางตำแหน่งคอนโดมีเนียมระดับพรีเมียม ในทำเลใจกลางเมืองย่านธุรกิจ (CBD) เพื่อรองรับความต้องการที่แท้จริง (Real Demand) ในการอยู่อาศัย เป็นหลัก และเพื่อการลงทุน (Investment)

สำหรับแนวคิดการพัฒนาแบรนด์วิสซ์ดิม คราฟท์ ของ MQDC เกิดจากการสำรวจความต้องการเชิงลึกผู้บริโภค (Consumer Insight)รุ่นใหม่ ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 20-30 ปี

พบว่า ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายหลักดังกล่าว มีรายรับจากการทำงานมากกว่าหนึ่งช่องทาง เฉลี่ยรายได้มากกว่าสามหมื่นบาท-แสนบาทต่อเดือน อาทิ สายงานอินฟลูอินเซอร์ ยูทูบเบอร์ การทำธุรกิจออนไลน์ รวมไปถึงสายวิชาชีพที่มีรายได้ประจำสูง เช่น แพทย์ เป็นต้น

โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ดังกล่าว มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่แตกต่างไปจากในอดีต ประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลัก คือ

1. ‘เวลา’ มากขึ้นที่ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (facilities) ของที่อยู่อาศัย พื้นที่ตอบโจทย์ร้านค้าเชิงพาณิชย์ ต่างๆ ในโครงการ
2. การเดินทาง สะดวกสบาย
3. ห้องชุดที่ตอบโจทย์ประโยชน์ด้านต่างๆในการอยู่อาศัย Function Unit)
4.  พื้นที่สีเขียว ส่วนกลางที่ใช้ประโยชน์ได้จริงตรงความต้องการ เช่น ยิม /ฟิตเนส สระว่ายน้ำที่ใช้เพื่อออกกำลังกายได้จริง เป็นต้น
5. การอยู่อาศัยแบบอัจฉริยะ (Smart Living) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี

อัษฎา กล่าวว่าจากอินไซต์ ดังกล่าว ทำให้ MQDC วางแผนใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ พัฒนาโครงการวิซส์ดอม คราฟท์ ในย่านซีบีดี เพื่อรองรับตลาดกำลังซื้อกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังกล่าว

ล่าสุด MQDC พัฒนาโครงการคอนโดมีเนียม วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน มูลค่าโครงการกว่า 7,000 ล้านบาท อาคารสูง 55 ชั้น มีจำนวน 423 ยูนิต ตั้งบนทำเลถนนพระราม4 เป็นโครงการแรกของแบรนด์ซีรียส์ ดังกล่าว

สำหรับ วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน ยังมีจุดเด่นทั้งด้านที่ตั้งทำเล ความสะดวกสบายภายในโครงการ ด้วยห้องชุดฯเริ่มต้นขนาด 31  ตร.ม. และ ขนาด 38-40 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดพื้นที่หลักตามความต้องการหลักของกลุ่มเป้าหมาย 

นอกจากนี้ยังมีส่วนกลางพิเศษ ‘วิสซ์ดอม คลับ’ (Whizdom Club) แห่งแรกในโครงการคอนโดมีเนียมแบรนด์วิสซ์ดอม ประกอบด้วย โค-เวิร์กกิง สเปซ (Co-Working Space), เลิร์นนิง ปาร์ก (Learning Park) และ พื้นที่ช่วยเหลือฉุกเฉิน (Rescue Area) ทั้งหมดจะอำนวยความสะดวกเต็มพื้นที่ 300 ตร.ม. บนชั้น 3 ของโครงการฯ

โดยโครงการฯ วางระดับราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท พร้อมเปิดพรีเซลระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม นี้  

อัษฎา กล่าวว่า โครงการฯดังกล่าว ตอบโจทย์ความต้องการหลักในกลุ่มผู้ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และ ในกลุ่มรอง ซื้อเพื่อการลงทุน (Investment)  จากศักยภาพทำเลในย่านนี้ที่เชื่อมต่อหลากหลายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านพระราม4 อาทิโครงการ วัน แบงค็อก, ศูนย์ประชุมนานาชาติสิริกิติ์ และอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในย่านหัวลำโพง ยังไม่รวมกว่า 10 โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยอื่นๆที่ล้อมรอบบริเวณดังกล่าว

“หากโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ คาดจะผลักดันให้ย่านพระราม4 เป็นทำเลรองรับกลุ่มนักท่องเทื่ยว นักธุรกิจระดับโลก ที่จะมีปริมาณหมุนเวียนหลักหลายแสนคนต่อปี โดยเฉพาะชาวต่างชาติ กลุ่มประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย ที่สนใจลงทุนซื้ออสังหาฯย่านซีบีดี” อัษฎา กล่าว

สำหรับโครงการวิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน มีราคา 2.45 แสนบาทต่อตร.ม. ใกล้เคียงกับราคาที่ดินในย่านสามย่านเฉลี่ย 2- 3 แสนบาทต่อตร.ม. และราคาเปลี่ยนมือ (Re Sale) จะปรับขึ้น 10-15% ของราคาเดิม เฉลี่ยปรับขึ้นราว 2.5 แสนบาทต่อตร.ม.

ขณะที่อัตราตอบแทนจากการเช่า (Yield) โครงการวิสซศ์ดอม คราฟท์ จะอยู่ที่ 800 บาทต่อตร.ม.และคาดว่ามีโอกาสปรับขึ้นเป็น 900 บาทต่อตร.ม. และเป็นพื้นที่การซื้อขายอสังหาฯ แบบขายขาด (Free Hold) เพียงไม่กี่แห่งในบริเวณสามย่าน