ม.หอการค้าฯ ปรับลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 3%  ยังเสี่ยงปัจจัยลบส่งออกชะลอตัว- ภัยแล้ง -งบปี’67 ล่าช้า หวังนโยบายลดค่าไฟ ลดดีเซล พักหนี้เกษตรกรช่วยเติมเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ประมาณภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2566  ว่า ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 3.0% จากเดิม 3.6% โดยมีปัจจัยสำคัญคือ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไตรมาส 2/66 ชะลอตัวกว่าที่คาด  ขณะที่ส่งออกลดลงต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้

รวมถึงปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง หรือปรากฏการณ์เอลนีโญ กระทบต่อพืชผลทางการเกษตจร และปัญหาความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณปี 2567

ทั้งนี้คาดการณ์การส่งออกไทย จะติดลบ 2% จากเดิมโต 1.2% ส่วนการนำเข้าติดลบ 2.5% จากเดิมโต 2.2%, อัตราเงินเฟ้อ 1.8% จากเดิมคาด 3.0%, และหนี้ครัวเรือน อยู่ที่ระดับ 89.5%ต่อจีดีพี

สำหรับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐา 1 เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน เกษตรกร รวมถึงการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ ได้แก่ การลดค่าไฟฟ้า ลงเหลือ 3.99 บาท/หน่วย, การปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาท/ลิตร และการพักชำระหนี้ให้เกษตรกร 2.7 ล้านราย รวมยอดหนี้ 2.83 แสนล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 มาตรการคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ช่วยประหยัดรายจ่ายประมาณ 4.98 หมื่นล้านบาท  แยกเป็นมาตรการลดค่าไฟฟ้า 3 หมื่นล้านบาท ลดราคาดีเซล 1.42 หมื่นล้าน และพักหนี้เกษตรกร 4,935 ล้านบาท

“มาตรการลดค่าครองชีพทั้ง 3 ส่วนทำให้มีเม็ดเงินเกือบ 5 หมื่นล้านบาท มาเติมในระบบเศรษฐกิจผันกลับมาเป็นกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น มีผลต่อมูลค่าจีดีพี 7.2 หมื่นล้านบาท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 0.43%”

อย่างไรก็ตามม.หอการค้าไทย ประเมินในเบื้องต้นเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้  ขยายตัวได้ 4.5-5% โดยคาดหวังจะได้รับเม็ดเงินจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตวงเงิน 5.6 แสนล้านบาท และสัญญาณการฟื้นตัวท่องเที่ยวที่ชัดเจน จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 35 ล้านคน