‘สยามพารากอน’ เปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่รอบ18ปี เปิดประสบการณ์สายเทคฯ รับเจน ใหม่

‘สยามพารากอน’ เปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่รอบ18ปี เปิดประสบการณ์สายเทคฯ รับเจน ใหม่
วันที่ 9 ธ.ค.ปีนี้ 'สยามพารากอน'จะมีอายุครบ 18 ปีเต็ม จากจุดเริ่มต้นวางตำแหน่งเป็นจุดหมายปลายทางศูนย์การค้าหรู ระดับเอเชีย ที่กำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญสู่ประสบการณ์สายเทคฯ ให้เข้าถึง นิว เจนฯ

ธนพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ศูนย์​การค้าสยามพารากอน กล่าวว่าในปี2566 นี้ สยามพารากอน ใช้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนผ่าน(ทรานสฟอร์ม) ไปสู่พื้นที่การสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิต หรือ ไลฟ์สไตล์ด้านต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ (นิว เจนเนอเรชัน) ในปัจจุบันที่มีวิถีการใช้ชีวิต พฤติกรรมที่แตกต่าง ไปจากเดิมที่ผู้คนจะเดินทางมาใช้บริการในศูนย์การค้าเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้า พักผ่อน รับประทานอาหาร ฯลฯ

ล่าสุดสยามพารากอน ได้พัฒนาพื้นที่ใหม่ในชื่อ ‘SIAM PARAGON NEXT TECH X SCBX’ วางตำแหน่งเป็นเทคคอมมูนิตี้ เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต บนพื้นที่กว่า 4,000 ตร.ม. ชั้น 4 สยามพารากอน พร้อมร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเทคโนโลยีในระบบนิเวศ (Ecosystem) ระยะยาว (1-3 ปี) กว่า 17 ราย

 

อาทิ SCBX , Focus , BITCAST , Connex , DEPA , JIB, looloo tech x Samitivej , SiamSandbox , Synnex, Techsauce , TFA , TIKTOK , The Standard , การเงินการธนาคาร , AIS , ONESIAM SuperApp ฯลฯ นำเสนอองค์ความรู้และนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ SCBX NEXT STAGE สำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ในรูปแบบสัมนา เวิร์กชอป สามารรองรับคนได้มากกว่า 300 คน รวมถึงพื้นที่สำหรับการจัดแสดงผลงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายึนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว ดิจิทัล อาร์ท ผลงานจากมิเกล เชอวาลิเยร์ (Miguel Chevallier) สิลปินระดับโลกชาวฝรั่งเศส ร่วมสร้างสรรค์อินเตอร์แอคทีฟ ดิจิทับอาร์ตในรูปแบใหม่เป็นครั้งแรก

ขณะเดียวกัน สยามพารากอน ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) เพื่อไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นร่วมกันด้วยการให้ความสำคัญด้านบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยร่วมกับ SYNNEX ผู้นำด้านระบบนิเวศไอที มาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษจากขยะอิเล็กทรกนิกส์และลดภาวะโลกร้อน โดยติดตั้งจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไอที ซึ่งจะนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ต่อไป

ด้าน สาลวิท สุวิพร ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าการพัฒนาพื้นที่  “SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX” ภายใต้แนวคิด “Smarter Better Richer” เพื่อเป็นเทคคอมมูนิตีฮับของ Tech ทุกแขนง เปิดโอกาสให้ผู้สนใจด้านดิจิทัลเข้ามาร่วมเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพตนเอง จากการเข้าร่วมกิจกรรมของพันธมิตรมากมายตามความสนใจ

ประกอบด้วยพื้นที่นำเสนอ Future Communities  7 ด้าน ประกอบด้วย  

1.DEV CONNECT คอมมูนิตี้ของเหล่านักพัฒนาเทคโนโลยี ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่างๆ

2. BLOCKCHAIN WEB3 & FINTECH ก้าวไปสู่ยุคใหม่ของโลกดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ

3.NEW TECH นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเป็นเครื่องมือสู่อนาคตและสนับสนุน

4.HEALTHTECH HUB  นำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมการดูแลสุขภาพผ่านเทคโนโลยีและวิธีการที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนาสุขภาพของมนุษย์ควบคู่ไปกับการดูแลปกป้องโลก

5.GAMER’S GUILD  พื้นที่ของเหล่าเกมเมอร์ และคนที่ชื่นชอบเกมได้มาแลกเปลี่ยนความชอบ เทคนิค และแพชชั่น ในเกมแนวที่ชอบ

6.AI ARENA เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนในโลกออนไลน์

7.SOCIAL CO-CREATORS  เปิดโอกาสให้ โซเชียลอินฟลูเอ็นเซอร์ และผู้สนใจเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้ร่วมกัน โดยพันธมิตรระดับโลก

โดยพื้นที่ฯโฉมใหม่ดังกล่าว วางเป้าหมายเพื่อขยายและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้เดินทางมายังสยามพารากอนมากขึ้น จากปัจจุบันมีปริมาณลูกค้าทั้งคนไทย/ต่างชาติหมุนเวียนราว 120,000-150,000 คนต่อวัน หรือ 50 ล้านคนต่อปี    

 

TAGS: #สยามพารากอน #พารากอน #SCBX