ธนาคารกรุงไทย มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.05 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในลักษณะ sideway (แกว่งตัวในช่วง 36.90-37.09 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ซึ่งออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง จากความกังวลว่า หากรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) วันศุกร์นี้ออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้เฟดสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดย นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า การจ้างงานมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น โดย ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls:NFP) เดือนกันยายน อาจเพิ่มขึ้นราว 1.6 แสนราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 1.9 แสนราย (ซึ่งต้องจับตาว่า จะมีการปรับปรุงข้อมูลก่อนหน้าหรือไม่ เพราะในปีนี้ NFP มักจะถูกปรับลดลงราว -5 หมื่นตำแหน่ง หลังการปรับปรุงข้อมูล) ส่วนอัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ระดับ 3.8% ไม่ต่างจากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกันกับ อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ที่จะขยายตัว +4.3%y/y เท่ากับเดือนก่อนหน้า
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideway ใกล้ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทำให้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ก็อาจผันผวนไปตามทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติได้ โดยจากภาพตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งตลาดบอนด์และตลาดหุ้นยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ทำให้เรามองว่า นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครอง ก่อนรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้
อย่างไรก็ดี ควรระวังว่าตลาดการเงินอาจผันผวนสูงในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงเวลา 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยหากยอดการจ้างงาน รวมถึงอัตราการเติบโตของค่าจ้าง ชะลอตัวลงได้ตามที่ตลาดประเมินไว้ หรือ ชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้ม Higher for Longer ของเฟด ซึ่งจะส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงได้บ้าง ขณะเดียวกัน ราคาทองคำก็มีแนวโน้มรีบาวด์ขึ้น ซึ่งในภาพดังกล่าว เราคาดว่า เงินบาทก็พร้อมจะแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 36.80 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก ในทางกลับกัน หากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ก็อาจยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นได้พอสมควร กดดันให้ เงินบาทอาจอ่อนค่าเร็วทดสอบโซนแนวต้านแถว 37.25 บาทต่อดอลลาร์ได้
เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.05 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
และประเมินกรอบเงินบาท 36.70-37.20 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ