นายณ์ เอสเตท ชวน แอล.พี.เอ็น เปิดตัวโครงการปัน สมาร์ท เวิร์คสเปซ ออฟฟิศแนวคิดใหม่ ทำเลถนนพระราม4 ดึงอินไซด์องค์กรธุรกิจคนทำงานยุคใหม่ ต้องการพื้นที่ทำงานแบบนี้
อรฤดี ณ ระนอง กรรมการ บริษัท ดลศิริ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัว “โครงการปัน สมาร์ท เวิร์คสเปซ” (PUNN Smart Workspace) พื้นที่สำนักงาน ออฟฟิศแนวคิดใหม่ที่พัฒนาจากความร่วมมือของ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด โดยโครงการตั้งบนทำเลทองใจกลางเมืองย่านพระราม 4 ทำเลห่างจากรถไฟฟ้า MRT คลองเตย เพียง 200 เมตร
โดยโครงการฯ ยังแวดล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักอาศัย โรงพยาบาล สถานทูตต่าง ๆ และ สวนสาธารณะ ซึ่งเป็นการพัฒนาบนความตั้งใจที่ต้องการให้ปันเป็นอาคารสำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นการออกแบบที่ยึดตามมาตรฐานระดับโลก
พร้อมให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ก่อมลภาวะ ผ่านกระบวนการควบคุมการก่อสร้างอย่างมีมาตรฐาน โดยเป็นอาคาร สูง 28 ชั้น มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของพื้นที่เช่ากว่า 22,600 ตร.ม.
“โครงการปัน สมาร์ท เวิร์คสเปซ” (PUNN Smart Workspace) โครงการที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Co- Growing Space เน้นกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิต และทำงานในเมือง ที่ต้องการพื้นที่การทำงานที่มอบความเป็นส่วนตัวให้กับบุคลากร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์โดยสาร พื้นที่ส่วนกลางรองรับการทำกิจกรรม รวมถึงพื้นที่สีเขียวภายในและด้านหน้าโครงการ
ตัวชี้วัดออฟฟิศที่องค์กรยุคใหม่มองหา
หัวใจสำคัญของอาคารสำนักงานที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจยุคใหม่ก็คือ อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“โครงการปัน สมาร์ท เวิร์คสเปซ” (PUNN Smart Workspace) ที่ได้รับการออกแบบภายใต้มาตรฐานระดับสากล LEED Certification (Leadership in Energy and Environmental Design) มาตรฐานการประเมินอาคารสีเขียวจากประเทศสหรัฐอเมริกา พัฒนาขึ้นโดย U.S. Green Building Council (USGBC) โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรของอาคาร และลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยเกณฑ์ประเมินมาตรฐาน LEED จะพิจารณาถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบพลังงานด้านต่าง ๆ ภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านที่ทำเลตั้ง โครงสร้างพื้นฐานรอบที่ตั้งอาคาร และตัวเลือกในการเดินทางเข้าสู่ตัวอาคารที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังมีการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และใช้ทรัพยากรน้ำให้น้อยที่สุด การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานและบรรยากาศโดยรวมด้วยการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทันสมัย วัสดุที่นำมาใช้สร้างอาคารควรเป็นวัสดุที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพ และลดปริมาณขยะ รวมถึงคุณภาพของสภาพอากาศภายใน แสงสว่าง และมุมมองต่าง ๆ จากในอาคาร
“องค์กรธุรกิจให้ความสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้ร่วมลงนามเซ็นสัญญาให้เช่าพื้นที่สำนักงานกับคุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารบริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด ผู้ผลิตสื่อในรูปแบบแมกกาซีนออนไลน์ในชื่อ The Cloud โดยเป็นสื่อสร้างสรรค์เนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างการเรียนรู้แก่กลุ่มผู้อ่าน” อรฤดี กล่าว
เปิดใจ The Cloud เช่าพื้นที่สำนักงาน
ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวว่า วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่เน้นตอบโจทย์คนทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นเอื้อต่อการทำงาน รวมทั้งเดินทางสะดวก และราคาค่าเช่าที่สมเหตุสมผล
ทั้งนี้ การออกแบบอาคารภายใต้มาตรฐาน LEED ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นคาร์บอนเป็นศูนย์ นับเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจย้ายออฟฟิศจากที่เก่ามา PUNN Smart Workspace แห่งนี้
โดยสิ่งที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงออฟฟิศก็คือ การปรับรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นและตรงกับไลฟ์สไตล์ของพนักงานแต่ละคน ซึ่งทาง The Cloud มีพนักงานรวม 50 คน ใช้พื้นที่รวม 3 ยูนิต หรือประมาณ 200 ตารางเมตร จะเปิดให้เข้าออฟฟิศ 3 วัน และทำงานที่บ้าน (Work from home) เป็นเวลา 2 วัน เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการการยืดหยุ่นด้านเวลา และลดเงื่อนไขด้านการเดินทางลง โดยมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในงาน
“ผมเชื่อเรื่อง การทำงานที่ไหนสักที่ มิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างคนในองค์กรมีความสำคัญ ส่วนการทำงานที่บ้านก็เริ่มทำตั้งแต่ช่วงโควิด-19 การทำงานในวันนี้จึงเน้นที่การผสมผสานทั้งสองอย่างเพราะคิดว่าออฟฟิศยังสำคัญ แต่เปิดให้พนักงานออกแบบการทำงานของตัวเองได้ ถ้าวันไหนที่ทำงานที่บ้านจะรู้ว่าต้องวางแผนอย่างไร” ช้างน้อย กล่าว