'พีระพันธุ์’ลุยปรับโครงสร้างราคาน้ำมันสร้างความเป็นธรรม เตรียมลดขายปลีกกลุ่มเบนซินประเดิมกดโซฮอล์91ลงอีก 2.50 บาท ช่วยวินมอเตอร์ไซค์

นายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน  เปิดเผยว่า นโยบายการลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์91ลงได้ 2.50 บาทต่อลิตร อยู่ระหว่างการพิจารณาจะใช้แนวทางใดในการลดราคาครั้งนี้ ทั้งการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน หรือการลดอัตราจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง  โดยจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

สำหรับเหตุผลที่เลือกลดราคาแก๊สโซฮอล์91 ก่อนนั้น เนื่องจากมีผู้ใช้ในกลุ่มของมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้  ส่วนกรอบระยะเวลาที่จะลดราคานั้น น่าจะเป็นแนวทางเดียวกับกลุ่มน้ำมันดีเซล ระยะเวลา 3 เดือน

นอกจากนี้กระทรวงฯ ยังมีนโยบายช่วยเหลือให้กลุ่มเกษตรกรได้ใช้น้ำมันราคาถูก เหมือนกับกลุ่มชาวประมง ที่มีโครงการน้ำมันเขียว  โดยเตรียมร่างพรบ.มารองรับ เพื่อประกาศใช้เป็นครั้งๆไป ซึ่งกฎหมายที่จะออกมา คาดว่าจะดำเนินการได้ก่อนสิ้นปีนี้

นายพีระพันธุ์   กล่าวว่า จะเร่งปรับโครงสร้างด้านพลังงานในทุกมิติเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน  รวมถึงวางแผนปรับภารกิจและสร้างมาตรฐานใหม่ให้การกำกับดูแลด้านพลังงาน เน้นประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้สามารถเข้าถึงพลังงานอย่าง มั่นคง เป็นธรรม และยั่งยืน

อย่างไรก็ตามพลังงานเป็นเรื่องสำคัญในการดำรงชีวิต ซึ่งหน้าที่ที่สำคัญของกระทรวงพลังงานคือการสร้างความมั่นคง ให้ประชาชนทุกระดับมีพลังงานใช้ ในราคาที่เป็นธรรม เหมาะสม โดยจะเน้นประชาชนเป็นหลัก แต่ก็จะไม่ให้ผู้ที่ดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบหรือได้รับผลประโยชน์มากเกินไป ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานอาจถูกมองว่าเป็นกระทรวงที่ดำเนินนโยบายเอื้อกลุ่มทุน แต่ด้วยกฎหมายที่อาจจะไม่ได้มีการแก้ไขมานาน จึงทำให้อำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอาจจะไม่เอื้ออำนวย ดังนั้น การปรับแก้กฎหมายต่างๆ ก็จะเป็นทางออกที่ช่วยให้เกิดการปรับโครงสร้างด้านพลังงาน  

ส่วนนโยบายรัฐบาล ได้วางนโยบายไว้ทั้ง 3 ระดับ โดยระยะสั้นคือการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งหลังรับตำแหน่ง1เดือน ได้ปรับลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 3.99 บาท และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท

ขณะที่ในระยะกลางคือการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบาย และในระยะยาวคือการปรับโครงสร้างเพื่อให้การดำเนินนโยบายหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลไปแล้ว กระทรวงพลังงานก็ยังสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน แม้กระทรวงพลังงานจะเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณแผ่นดินน้อยที่สุด 

 ส่วนการลดราคาน้ำมันเบนซินก็เพื่อต้องการให้เกิดความยุติธรรมกับประชาชนทุกกลุ่ม เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลังจากที่ผ่านมามีการช่วยเหลือแต่กลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซล โดยเรื่องราคาน้ำมันจะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยจากต้นทาง เช่น ราคาในตลาดโลก โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีความผันผวนเนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ส่วนปลายทางก็คือค่าการกลั่น ค่าการตลาด ที่จะต้องมีการตรวจสอบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

“ผมจะเร่งดำเนินการทุกมาตรการ เพื่อ เร่ง ลด ปลด สร้าง นโยบาย มาตรการ กฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งจะเน้นปรับโครงสร้างด้านพลังงาน โดยเฉพาะค่าน้ำมัน จะเข้าไปรื้อโครงสร้างราคาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้มีการตั้งราคาน้ำมันที่เหมาะสม และอาจมีการลดชนิดน้ำมันในอนาคต”