FN Outlet รีแบรนด์ใหญ่รอบ 5 ปี แปลงโฉมใหม่ 100% ทุกสาขา ปรับสัดส่วนเอาท์เล็ตเหลือ 40% เพิ่มพื้นที่เช่า 60% มุ่งรายได้ประจำ นำร่องสาขาหัวหินต้นแบบก่อน เริ่มปี 67ทยอยในทุกสาขา
กิตติมา วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกสินค้าเอาต์เล็ต ‘FN Outlet’ เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนปรับภาพลักษณ์ใหม่ธุรกิจแบรนด์ (Rebranding) ในทุก 5 ปี ให้มีความทันสมัย และมีสีสันมากขึ้น โดยเริ่มแผนฯตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา
โดย FN Outlet จะปรับสัดส่วนพื้นที่ขายของเอาท์เล็ททั้งหมด จากเดิม100% เป็นการกระชับพื้นที่เอาท์เล็ทให้เหลือ 40% และจะนำรูปแบบ(Model) ให้เช่าพื้นที่ขายในสัดส่วน 60% เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า และมุ่งหารายได้ประจำ (Recurring income) เพิ่มเข้ามา
สำหรับแผนธุรกิจดังกล่าวยังไปพร้อมกับการเพิ่มความโดดเด่นให้ ‘FN Outlet’ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการ จำนวนมากขึ้น
ทั้งนี้ จะนำจุดเด่นของท้องถิ่นในแต่ละทำเลมาปรับใช้ร่วมกันเพื่อสร้างอัตลักษณ์ อาทิโครงการนำร่อง FN Outlet สาขาหัวหิน ได้นำเอกลักษณ์ ‘น้ำตกป่าละอู’ ของเมืองหัวหิน ,kเป็นต้นแบบการตกแต่งพื้นที่สวนส่วนกลาง เปรียบเสมือนจุดพักผ่อนของผู้มาใช้บริการ
ควบคู่กับการขยายความเป็นคอมมูนิตี แหล่งนัดพบ พักผ่อนให้กับผู้บริโภค พร้อมขยายในส่วนร้านอาหารใหม่ โดยเฉพาะร้านดังในท้องถิ่น เป็นหลัก
“หัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวน่าจะเข้ามาเพื่อรับการท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นที่มาของการปรับโฉมสาขาหัวหินให้มีลูกเล่นของท้องถิ่น โดยจะนำสาขาหัวหินเป็นต้นแบบแซนด์บ๊อกซ์ จากนั้นจะนำไปใช้พัฒนาสาขาอื่น ต่อไป”
โดยในปี 2566 บริษัท คาดจะปรับโฉมได้ครบ 3 สาขา ได้แก่ ชลบุรี หัวหิน และปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นในปี 2567 จะทยอยปรับใหม่ได้ครบ 100% ทุกสาขา ปัจจุบัน ‘FN Outlet’ เปิดให้บริการ 12 แห่ง
สำหรับแผนการตลาดสินค้าที่ให้บริการภายใน ‘FN Outlet’ อาทิ สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ FN Apparel ที่มีจุดเด่นการนำกลุ่ม Linen Life หรือ ผ้าลินิน พัฒนาเป็นคอลเคชันมาแยกจำหน่าย ครั้งแรก เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของ FN Outlet ที่มีจุดเริ่มต้นธุรกิจจากแบรนด์แฟชั่นอย่าง FLYNOW (ฟลายนาว)
นอกจากนี้ ยังได้ขยายแบรนด์เนมอื่น ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต อาทิ bottega Veneta, CELINE, Prada และกลุ่มแบรนด์เนมกีฬา อย่าง adidas, under amour, puma เป็นต้น รวมไปถึงการทำตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องนอน FN Sleep ไอเทมต่างที่ได้การตอบรับดี และเฟอร์นิเจอร์สไตล์หรูหราและคลาสสิก จับกลุ่มเป้าหมายระดับ A ถึง A-
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมาย จะมีปริมาณลุกค้า (Traffic) ทั้งคนไทย/ต่างชาติ เข้ามาใช้บริการต่อสาขาเพิ่มขึ้น ไปพร้อมการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การแนะนำสินค้าต่างๆของบริษัทในช่องทางออนไลน์ ที่กำลังเติบโตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ด้วยกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์ครบวงจร (fulfillment) ผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ และบุคคลทั่วไป สามารถไลฟ์ขายสินค้าเอฟเอ็นฯ ได้ในบางสาขา โดยบริษัทฯ จะดำเนินการแพ็กสินค้าและจัดส่งให้ พร้อมมอบค่าคอมมิชชันกับผู้มาไลฟ์ขายสินค้า
กิตติมา กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจเอาท์เล็ท ในปลายปีนี้ คาดจะเป็นฐานลูกค้าคนไทยและต่างชาติ สัดส่วน50/50 จากการทยอยปรับโฉมสาขาใหม่ โดยตั้งเป้าทุกสาขาโฉมใหม่เติบโต 10% จากปกติในไตรมาส 4 ปี ของทุกปีธุรกิจจะมียอดขายสูงสุด แม้ว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะยังไม่กลับมา 100% แต่ไม่ได้รับกระทบด้วยยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรป เข้ามาใช้บริการ
