ซิซซ์เล่อร์ เตรียม 4 กลยุทธ์ตลาด พร้อมใช้คอนเซปต์ใหม่สาขา เกาะสมุย นำร่องก่อนไปปี67 เทียบฟอร์มสเต็กพรีเมียมระดับโรงแรม เป้าสู่ผู้นำประสบการณ์ร้านอาหารตะวันตก แผนรักษาแชมป์ตลาดร้านสเต็ก 9,000 ล้านบาท
อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทเดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซิซเล่อร์ (Sizzler) ร้านสเต๊กและสลัดบาร์ได้เข้ามาทำตลาดในไทยมานานร่วม 30 ปี และกว่า 60 ปีในทั่วโลก ที่มีต้นกำเนิดสาขาแรกในเมืองคลูเวอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
จากจุดตั้งต้นดังกล่าว ซิซซ์เล่อร์ นำมาต่อยอดสู่แนวทางการทำธุรกิจ ในปี 2567 ด้วย 4 กลยุทธ์หลักสำคัญ คือ
- เฟรช-พรีเมียม-ควอลิตี (Fresh-Premium-Quality) โดยทำต่อเนื่องจากในปี 2566 เพื่อตอกย้ำความสดใหม่ของคุณภาพวัตถุดิบอาหารทุกเมนูของซิซซ์เล่อร์ โดยกลยุทธ์นี้ได้ผลักดันให้ธุรกิจช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.2566) ลูกค้าให้การตอบรับด้านคะแนนความพึงพอใจ เพิ่มขึ้นราว 20%
ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ มีแผนขยายการรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรท้องถิ่น (Local Supplier)ในรูปแบบสัญญา (Contract Farming) มากขึ้น
โดยเฉพาะการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มอีก 10-15% จากโครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำมาใช้พัฒนา/ปรุงเมนูต่างๆของซิซซ์เล่อร์ ที่สดใหม่ มีคุณภาพสูงเทียบเท่าระดับร้านสเต็กในโรงแรม
- การหวนรำลึกต้นกำเนิดซิซซ์เล่อร์ จากเสียงฉ่า หรือในภาษาอังกฤษ คือ Sizzling ของสเต็กเมื่อเสิร์ฟบนกะทะร้อน ทำให้เป็นแรงบันดาลใจมาตั้งชื่อร้านว่า Sizzler ครั้งแรก
โดยซิซซ์เล่อร์จะนำแนวคิดนี้ ต่อยอดไปสู่การพัฒนาเมนูใหม่ สเต็กจากเนื้อสัตว์อื่นๆในอนาคต นอกเหนือจากเมนูสเต็กเนื้อที่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ที่ผ่านมา
- การขับเคลื่อนฐานลูกค้าสมาชิก (Drive Loyalty Program) ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยแคมเปญการตลาดและสิทธิพิเศษต่างให้กับลูกค้าฐานสมาชิกซิซซ์เล่อร์
จากปัจจุบันซิซซ์เล่อร์ มีฐานสมาขิกราว 2.5 แสนราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ตามความถี่ในการเข้ามารับประทานอาหารภายในร้าน ประกอบด้วย
1. สมาชิกกรีน (Green Member) สัดส่วน80% กลุ่มนี้นิยมเข้ามารับประทานอาหารเมนูพื้นฐานสลัดบาร์ ในราคาสมาชิก 159 บาทจากปกติ 199 บาท และขยายการรับประทานอาหารไปยังเมนูใหม่อื่นๆ
2.สมาชิกโกลด์ (Gold Member) สัดส่วน 15% ผู้สนใจสามารถสมัครบัตรสมาชิกได้ในราคา 399 บาท และนำไปใช้เพื่อลดค่าอาหารได้ทันที 10%
3.สมาชิกไดมอน (Diamond) สัดส่วน 5% ต่อยอดการมาจากกลุ่มสมาชิกโกลด์ ที่เข้ามาใช้บริการร้านซิซซ์เล่อร์ สม่ำเสมอต่อเนื่อง มีการใช้จ่ายตลอดทั้งปีเป็นจำนวนมาก
โดยในปี 2566 คาดจะมีฐานสมาขิกเพิ่มเป็น 5 แสนราย และในปี 2567 วางเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านราย
- การปรับโฉมและขายสาขาใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงร้านซิซซ์เล่อร์ สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ใหม่ทั้งชั้น และวางแผนเปิดอีก 3 สาขาใหม่ ในย่านรามอินทรา เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ และ สาขาแรกในเกาะสมุย
อนิรุทร์ กล่าวว่า สำหรับร้านซิซซ์เล่อร์ สาขาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นการเข้าไปเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก โดยวางแนวคิดรูปแบบ สเต็ก แล็บ (Steak Lab) บนพื้นที่ราว 300 ตร.ม. รองรับได้กว่า 100 ที่นั่ง เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบการพัฒนาเมนู บริการด้านต่างๆ ให้กับร้านสาขาใหม่ๆในอนาคต
อาทิ การเป็นครัวเปิด (Open Kitchen) การใช้เชฟรุ่นใหม่ที่มีสไตล์และเอกลักษณ์ การให้บริการเครื่องดื่มค็อกเทลกว่า 15 รายการ (SKUs) รวมไปถึงการใช้ชุดพนักงาน (Uniform) ใหม่ และอื่นๆ ฯลฯ
นอกจากนี้ ซิซซ์เล่อร์ ยังมุ่งสร้างการจดจำแบรนด์ผ่านสินค้าของที่ระลึก (Premium) ในไลน์สินค้าประเภทต่างๆในรูปแบบ คอลเล็กชัน ซีรียส์ อาทิ หมวก ร่ม หมอนชีสโทสต์ ซึ่งมีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ โดยจะวางจำหน่ายในโอกาสพิเสษให้กับลูกค้าสมาชิก ที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านในแต่ละช่วงเทศกาล
ล่าสุดในไตรมาส4 นี้ ซิซซ์เล่อร์ เปิดตัวเมนู Festive Season เสิร์ฟ 3 เมนูสเต๊กพรีเมียมส่งท้ายเทศกาลใหญ่ปลายปีนี้ ประกอบด้วย
- สเต๊กปลากะพง และเบคอน (Bacon-Wrapped Sea Bass Steak ) ราคา 549 บาท
- สเต๊กบีฟลอยน์ และเบคอน ราคา 899 บาท
- สเต๊กเนื้อไพร์มริบ (สำหรับ 2 ท่าน) (Grilled Sous Vide Beef Prime Rib Cote De Boeuf) ราคา 1,999 บาท
ทั้งนี้ จากแนวทางธุรกิจและกลยุทธ์การทำตลาด ดังกล่าวเพื่อผลักดันไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำการสร้างประสบการณ์ร้านอาหารตะวันตก (Lead Western Dining Experience) ในปี 2567 เพื่อสร้างจุดเด่นจากต้นกำเนิดความเป็นร้านสต็กและสลัดบาร์ พัฒนาเป็นเมนูอาหารตะวันตกในแต่ละประเทศ รองรับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคชาวไทย สัดส่วน 80% และชาวต่างชาติรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว สัดส่วน 20%
ปัจจุบัน ซิซซ์เล่อร์ เปิดให้บริการสาขาราว 60 แห่งแบ่งเป็นสาขาในหัวเมืองจังหวัดท่องเที่ยว พัทยา 3 สาขา ภูเก็ต 2 สาขา เชียงใหม่ 1 สาขา ล่าสุด สมุย 1 สาขาพร้อมเปิดตัววันที่ 16 ธันวาคม ปีนี้ คาดสิ้นปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 63 สาขา และในปี 2567 คาดเปิดอีก 3 สาขาใหม่ รวมเป็น 67 สาขา
สำหรับผลดำเนินธุรกิจในปีนี้ ซิซซ์เล่อร์ คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายเป็นไปตามแนวโน้มเดียวกับตลาดสเต็กในประเทศไทย ที่มีมูลค่าราว 9,000 ล้านบาท โดยซิซซ์เล่อร์ มีส่วนแบ่งการตลาดราว 30% และคาดว่าตลาดสเต็กระดับพรีเมียมของไทยจะมีทิศทางการเติบโตดีต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดตลาดสเต็กพรีเมียม ในภูมิภาคเอเชีย โตราว 4-5%