ชีวิตไม่ได้มีแค่โหมดหวานอย่างเดียว เช่นเดียวกับช็อกโกแลตมีทั้งหวานทั้งขมปนกันไปแบบที่ Wonka กำลังพาเราไปรับชมเสน่ห์ของวงการช็อกโกแลต
การกลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมมาแล้วจากรุ่นสู่รุ่น "Charlie and the Chocolate Factory" หรือชื่อไทย "ชาร์ลี และโรงงานช็อกโกแลต" สู่ภาพยนตร์เรื่องใหม่ "WONKA" โดยอ้างอิงมาจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดของ "Roald Dahl"
ที่เลือกบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "Willy Wonka" เจ้าของโรงงานช็อกโกแลต ผู้เป็นทั้งนักมายากล นักประดิษฐ์ และผู้รังสรรค์ขนมหวาน ที่จะพิชิตใจผู้คน รวมทั้งผู้ชมอย่างเรา ด้วยการรังสรรค์ช็อคโกแลตสูตรพิเศษ โดยได้นักแสดงหนุ่มมากเสน่ห์ "Timothée Chalame (ทิโมธี ชาลาเมต์)" มาแสดงนำ
การเลือกจะนำเสนอเรื่องราวของ Wonka ในรูปแบบเรื่องราวต้นฉบับ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่อง ชาร์ลีและโรงงานช็อกโกแลต ทำให้มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง เล่าเรื่องราวชีวิตชายหนุ่มกับไอเดียสุดบรรเจิดของเขาไปพร้อมกับเรื่องราวของสังคมชนชั้น การผูกขาดของทุนนิยม การเล่นไม่ซื่อในโลกธุรกิจ เหมือนจะเป็นภาพยนตร์เด็ก แต่เนื้อหาก็เสียดสีสังคมปัจจุบันได้ดี
แน่นอนว่าเนื้อเรื่องเล่าถึง “วองก้า” ที่ได้เดินทางที่มาเยือนปารีสก่อนสงครามในฐานะชายหนุ่มที่มีนิสัยร่าเริงและใจดี โดยมุ่งมั่นที่จะเสี่ยงโชคและความท้าทายของเขาด้วยสูตรช็อกโกแลตที่แม่ของเขาคิดค้น (รับบทโดยแซลลี่ ฮอว์กินส์) ในใจเขาหวังว่าจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการช็อกโกแลต เขย่าธุรกิจที่ซบเซานี้ด้วยไอเดียใหม่ๆ แต่กลับต้องเผชิญกับความโหดร้าย (เช่นผู้ดูแลอาพาร์ทเม้นท์จอมขี้งกและหัวหมอ) หรือสังคมธุรกิจวงการขนมหวานด้วยกันคิดจะผูกขาดและตัดคู่แข่ง
วองก้าไล่ตามโชคชะตาที่มีพื้นฐานมาจากโกโก้ด้วยความกล้าหาญ และในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอันน่ากลัวของเหล่าตัวร้ายในเรื่องที่รอให้เราไปลุ้นเอาใจช่วยในภาพยนตร์
ภาพยนตร์โดยรวมมีเพลงทั้งหมดประมาณ 5-6 เพลง แต่เพลงที่ทำให้เรารู้สึกติดหูมากที่สุดคือเพลงที่ร้องโดยมนุษย์จิ๋วหัวสีเขียวที่ชื่อว่า อุมป้า ลุมป้า (รับบทโดย ฮิวจ์ แกรนท์) ที่แค่ฟังครั้งแรกก็รู้สึกว่ายิ้มไปกับมันได้แล้ว หนังค่อนข้างดำเนินเรื่องไวแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเราตามเนื้อเรื่องไม่ทัน เรายังสามารถตามเนื้อเรื่องที่ให้ความรู้สึกแฟนตาซี และ Heart warmth ได้อย่างไม่ยากเย็น จากประเด็นครอบครัวและ "การให้" ที่แฝงมากับหนัง
สำหรับช่วงเฟสทีฟอย่างนี้ หากต้องการดูหนังที่ตอบรับช่วงเทศกาล Wonka คือตอบโจทย์หนังต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสได้ดีทีเดียว ความรู้สึกส่วนตัวอาจจะไม่ได้เด่นไปกว่าภาคก่อนๆมากนัก แต่ในทางกลับกันก็ยังให้ความรู้สึกสนุกและอบอุ่นหัวใจได้จากหนังเรื่องนี้