สัมภาษณ์พิเศษ ‘แจ็คเกอลีน อึ๊ง’ การก่อตั้ง และสานฝันให้คนหันมาอ่านหนังสือ

สัมภาษณ์พิเศษ ‘แจ็คเกอลีน อึ๊ง’ การก่อตั้ง และสานฝันให้คนหันมาอ่านหนังสือ
สัมภาษณ์พิเศษ ‘แจ็คเกอลีน อึ๊ง’ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Big Bad Wolf Books จุดกำเนิดแรงบันดาลใจที่อยากให้มีวัฒนธรรมการอ่าน

การอ่านเป็นมากกว่างานอดิเรก การอ่านเป็นเพิ่มพูนความรู้ ทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์ที่ในชีวิตเราอาจจะไม่เคยได้ลองทำจริง แต่เราสามารถรับรู้ได้ผ่านการอ่าน นอกเหนือจากหนังสือของนักเขียนไทยแล้ว หนังสือจากต่างประเทศนับเป็นองค์ความรู้ที่ทำให้เราได้รู้จักโลกกว้างไกลขึ้น

สำหรับประเทศไทยมีหนังสือแปลออกมาจำนวนหนึ่งทั้งประเภทนวนิยาย ประเภทพัฒนาตัวเอง หรือความรู้ด้านต่างๆ เช่น การเงิน การลงทุน นับเป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมในไทย แต่ยังมีหนังสือต่างประเทศอีกมากที่ไม่ได้เข้าไทย และคนไทยไม่สามารถหาอ่านได้ง่าย จึงเป็นโอกาสให้ Big Bad Wolf Books  เทศกาลหนังสือภาษาอังกฤษที่ได้โอกาสเข้ามาจัดงานที่ไทย ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 8 แล้วนับตั้งแต่ปี 2016 

The Better ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษคุณแจ็คเกอลีน อึ๊ง ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Big Bad Wolf Books ถึงแรงบันดาลใจในการก่อตั้งและสานต่อความฝันที่อยากให้คนหันมาอ่านหนังสือ สร้างวัฒนธรรมการอ่าน เปลี่ยนแปลงโลกของหนังสือ

ทำไมต้อง Big Bad Wolf  Books

คุณแจ็คเกอลีนเล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้น โดยเริ่มแรกคุณแจ็คเกอลีนและสามี ได้ก่อตั้งร้านหนังสือเล็กๆ ร้านนึงในประเทศบ้านเกิด มาเลเซีย คิดว่าจะทำให้คนเข้าถึงหนังสือ และรักหนังสือได้อย่างตน แต่หลังจาก 2 ปีกลับพบว่าร้านหนังสือไม่ได้เข้าถึงผู้คนได้มากเท่ากับที่คิด ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก หรือใหญ่ ก็ไม่สามารถทำให้คนจำนวนมากเข้าหาหนังสือได้เพราะส่วนใหญ่คนที่เข้าร้านหนังสือคือคนที่รักหนังสือ หรือตั้งใจเข้ามาหาหนังสืออยู่แล้ว และพวกเขาเหล่านั้นสามารถมาคนเดียวได้

เมื่อกลับไปคิดทบทวนว่าอะไรที่คนมักจะมาด้วยกันเยอะๆ มามากกว่า 1 คน มาได้ทั้งครอบครัวควรเป็นงานอีเว้นต์ งานเทศกาลที่คนจะมาเดินงานเป็นกลุ่มมากกว่าคนเดียว และยังสามารถชวนคนในครอบครัว รวมทั้งเด็กๆ ให้มาเดินได้อีกด้วยจึงเกิดเป็นไอเดียในการทำโปรเจ็ก Big Bad Wolf Books ขึ้น คุณแจ็คเกอลีนจึงชวนนักศึกษามหาวิทยาลัยไม่กี่สิบชีวิตมาเป็นทีมงานในครั้งแรก และพบว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่สามารถที่จะแยกประเภทของหนังสือได้อย่างถูกต้อง จึงได้มีการสอน เกิดการเรียนรู้ และเป็นการเริ่มต้นให้เด็กๆ ได้รู้จักหนังสือยิ่งขึ้นการจัดงานนั้นประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกๆ เปิดโอกาสให้คนอีกหลายคนได้เข้าถึงหนังสือ เพราะหลายคนโดนคนในบ้านชวนให้มาด้วยกันทั้งเด็กเล็ก และทั้งผู้ใหญ่ และขณะนี้ได้ขยายไปแล้วกว่า 15 ประเทศ

วิสัยทัศน์ในการจัดงานจึงถือว่าบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ระดับหนึ่ง หากย้อนกลับไปสมัยคุณแจ็คเกอลีนเป็นเด็ก การอ่านถือเป็นอภิสิทธิ์สำหรับบางคนเท่านั้น เพราะราคาแพง ในงานตนจึงทำราคาพิเศษที่คนเข้าถึงได้ สามารถที่จะซื้อหนังสือไปเป็นของขวัญ ทั้งในงานยังมีประเภทหนังสือ และ ไลฟ์สไตล์ที่ตอบคนแทบจะทุกกลุ่มกิจกรรม หากรักงานออกแบบ รักภาพยนตร์ ชื่นชอบการตกปลา หรือแม้จะรถยนต์ ในงานมีหนังสือครบให้เลือก สามาถซื้อเป็นของขวัญแสดงถึงความใส่ใจอีกฝ่ายได้ด้วย และในอนาคตยังคาดหวังว่าจะขยายการจัดงานเพิ่มไปยังประเทศอื่นๆ อีก

ทิศทางตลาดหนังสือ และประเภทหนังสือที่มาแรงในปี 2024

คุณแจ็คเกอลีนเผยว่า ทิศทางของหนังสือที่มีผู้นิยมอ่านมากสุดในช่วงนี้คือ ‘หนังสือพัฒนาตัวเอง’ เพราะหลังจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่ผ่านมา คนหันกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น แต่การพัฒนาตัวเองในครั้งนี้ ไม่ใช่การพัฒนาด้านทักษะ และการจัดการเรื่องงาน ซึ่งประเภทนั้นจะเป็นที่นิยมก่อนเกิดการระบาด คนในยุคปัจจุบันหันมาสนใจการพัฒนาด้านร่างกาย และจิตใจมากยิ่งขึ้น เลือกที่จะให้ความสำคัญกับตัวเอง หากจะเป็นการจัดการก็จะเป็นการจัดการกิจวัตรของตัวเอง

อีกประเภทที่ขายดีตลอดคือประเภท ‘นวนิยาย’ หนังสือที่เด็กวัยรุ่นนิยมอ่านมากที่สุด อาจจะเพราะเทรนด์สมัยใหม่ที่คนอ่านหนังสือ ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเด็กเนิร์ด กิจกรรมการอ่านหนังสือไม่ได้ถูกมองว่าน่าเบื่อ เปรียบเหมือนได้ละเว้นโซเชียลมีเดีย และหนังสือยังถูกเอามาเป็นของตกแต่งห้องอีกด้วย เพราะตนยังเคยคุยงานกับนักออกแบบภายในที่ต้องการให้ตนหาหนังสืออะไรก็ได้ แต่ขอเป็นปกสีชมพูเพื่อนำมาตกแต่งห้องของลูกค้า

แต่ในงาน Big Bad Wolf Books นั้นยังมีความพิเศษกว่างานหนังสืออื่นๆ ตรงที่ประเภทหนังสือที่ขายดียังมี ‘หนังสือเด็ก’ เพราะหนังสือเด็กมีลูกเล่นที่หลากหลาย และประเภทหนังสือเริ่มต้นได้ตั้งแต่วัย 1 ขวบ นอกจากจะเป็นหนังสือที่ดูเหมือนของเล่นไปในตัวแล้ว หนังสือภาพ หนังสือการ์ตูนยังเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กๆ หยิบจับ เริ่มสนุกกับการมางานหนังสือมากขึ้น การที่เด็กๆ ให้ความสนใจก็เหมือนกับจุดเริ่มต้นของการสร้างนิสัยรักการอ่านได้แล้ว เด็กๆ อ่านมากขึ้น เสมือนการเพิ่มนักอ่านในอนาคตมากขึ้น

การสร้างนิสัยรักการอ่านตั้งแต่ตอนนี้ ง่ายกว่าการบังคับให้พวกเขาอ่านในวัยที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น เพราะเป็นช่วงวัยที่ให้ความสนใจกิจกรรมอย่างอื่นมากกว่าการอ่าน แต่ก็ยังหวังว่าเมื่อเด็กๆ เหล่านี้โตขึ้นจะยังคงรักหนังสือ คุณแจ็คเกอลีนกล่าวเสริมว่า “คนเรามีชีวิตได้เพียงหนึ่งครั้ง แต่หากอ่านหนังสือ เราจะสามารถใช้ชีวิตได้มากกว่า 1 ครั้งผ่านเรื่องราวที่พวกเขาอ่าน”

ช่วยแนะนำหนังสือ 1 เล่มที่ไม่ควรพลาดสำหรับปีนี้ 

คุณแจ็คเกอลีนชูหนังสือที่คาดว่าเหมาะกับกลุ่มผู้อ่าน The Better ของเรา หนังสือเล่มนั้นคือ ‘You Only Live Once’  by Lonely Planet หนังสือเช็กลิสต์กิจกรรมที่ควรทำสักครั้งในชีวิต ตั้งแต่กิจกรรมง่ายๆ ไปจนถึงโลดโผน ที่ตัวเราเองเคยได้แต่ฝัน แต่ไม่เคยได้ลองทำสักที ไม่ว่าจะเพราะการงาน หรือครอบครัวที่เราใช้อ้างเพื่อจะไม่ลงมือทำ กิจกรรมใน Bucketlist ที่เราทุกคนอยากทำ เช่น การไปเที่ยวซาฟารี เรียนรู้ภาษาใหม่ และเริ่มการเดินทางท่องเที่ยวแบบโซโล่เดี่ยว ไปสู่ประสบการณ์เฉพาะกลุ่มและทางเลือกอื่น ๆ เช่น การสร้างกระท่อม การเป็นแชมป์โลกในบางสิ่งบางอย่าง และการปีนภูเขาไฟ เพราะเหตุใดจะไม่ทำมันล่ะ

และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่คุณแจ็คเกอลีนได้ให้แรงบันดาลใจกับเรา รวมทั้งถ่ายทอดความตั้งใจ มุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่รักการเรียนรู้ วัฒนธรรมการอ่านในคนรุ่นใหม่ และหากใครสนใจที่จะลองไปเดินงานนี้ หรือกำลังเฝ้ารอให้ Big Bad Wolf Books กลับมาอีกครั้ง งานจะจัดขึ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2567 ที่ The Market Bangkok ราชประสงค์ เดินทางสะดวกสบายทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถยนต์ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเที่ยงคืน

สามารถติดตามรายละเอียดและกิจกรรมดีๆ ของ Big Bad Wolf Books ได้จากช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งเฟสบุ๊ก www.facebook.com/bbwbooksthailand  และอินสตาแกรม @bigbadwolfbooks_th

TAGS: #BigBadWolfBooks #การอ่าน #อ่าน #หนังสือ #สัมภาษณ์