MGC เซ็น MOU กลุ่ม ปตท. รุกธุรกิจ EV ครบวงจร พร้อมมั่นใจรายได้ปี 66 โตกว่า 10% ตามเป้า

MGC เซ็น MOU กลุ่ม ปตท. รุกธุรกิจ EV ครบวงจร พร้อมมั่นใจรายได้ปี 66 โตกว่า 10% ตามเป้า
MGC เตรียมรุกธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างครบวงจร หลังเซ็น MOU กับ ‘กลุ่ม ปตท.’ แล้ว มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตกว่า 10% ตามเป้าหมาย

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกลุ่มปตท. เพื่อศึกษาแนวทางการลงทุนธุรกิจรถไฟฟ้า (EV) ครบวงจร เพื่อสร้าง Synergy ร่วมกัน รวมทั้งผลักดันให้ MGC-ASIA เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น จากการวางโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย ภายใต้โมเดลธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem ของ MGC-ASIA ที่มีระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์และแข็งแรง สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งสร้างการเติบโต จากการผสานความร่วมมือภายในองค์กรและพันธมิตรทางธุรกิจ (Synergy) โดยคาดว่าการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมาจากธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ 

-ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ : บริษัทฯ จะเข้าร่วมงาน Motor Expo 2023 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม 2566 ซึ่งคาดว่าจะมียอดจองรถยนต์ในงานจำนวนมาก จากความต้องการซื้อหรือเปลี่ยนรถใหม่ในช่วงนี้ รวมถึงการรับรู้รายได้จากรถยนต์ที่รอส่งมอบกว่า 900 คัน และส่งมอบเรือยอทช์ Azimut แก่ลูกค้า มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์นำเข้าและจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

-ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการ ซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ : จะเริ่มรับรู้รายได้จากศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) ซึ่งจะสร้างรายได้ประจำให้บริษัทฯ (Recurring Income)อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มอีกแห่งในปี 2567

-ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ : คาดว่าจะธุรกิจให้เช่ารถรถยนต์ระยะสั้นภายใต้ SIXT Rent a Car จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจาก เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยบริษัทฯ เตรียมขยายฟลีตรถเช่าในพื้นที่บริการ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีปัจจัยการเติบโตจากธุรกิจร่วมทุนอีก 2 บริษัท คือ บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจบริการประกันภัยชั้นแนวหน้า ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยคาดว่าจะมีรายได้กว่า 325 ล้านบาทในปี 2566 เติบโตกว่า 15%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 8% ในปี 2567

พร้อมทั้งการเปิดตัวบริการประกันรูปแบบใหม่ จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รวมถึงมุ่งขับเคลื่อนนโยบายตามหลัก ESG ขณะที่ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ซึ่ง MGC-ASIA ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์ระดับลักชัวรี่และมารีน เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม-ลักชัวรี่ มีการขยายพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ ให้เติบโตทะลุ 10% ตามเป้าหมาย

 

 

 

TAGS: #MGC #ปตท #EV #ยานยนต์ไฟฟ้า