WORLD เผย "จิรศักดิ์ จิยะจันทน์" ลาออกจาก CEO แล้ว หลังถูก ก.ล.ต. ลงดาบ ฐานทุจริตซื้อ-ขายที่ดิน

WORLD เผย
WORLD เผย "จิรศักดิ์ จิยะจันทน์" ลาออกจาก CEO แล้ว หลังถูก ก.ล.ต. ลงดาบ ฐานทุจริตซื้อ-ขายที่ดิน ทำให้ WORLD ได้รับความเสียหาย

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงานฯ”) ได้เผยแพร่ข่าวผ่านทางเว็บไซต์ ของสำนักงานฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 โดยสำนักงานฯ ได้กล่าวโทษนายจิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร (CEO) กรณีกระทำการเป็นเหตุให้ WORLD ได้รับความเสียหายบริษัทฯ ขอแจ้งว่านายจิรศักดิ์ จิยะจันทน์ได้ลาออกจากตำแหน่ง ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ แต่อย่างใดและบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 2560 นายจิรศักดิ์ (ขณะกระทำผิดดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ WORLD) ได้เบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัทไปเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต และแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เป็นเหตุให้ WORLD ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 30 ล้านบาท โดยมีนางสาวจิรวิน เป็นผู้ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำความผิดของนายจิรศักดิ์ ในกรณีที่ WORLD ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และได้จ่ายเงินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน จำนวน 30 ล้านบาท ให้กับบริษัทคู่ค้า

โดยจากพยานหลักฐานพิจารณาได้ว่าบริษัทคู่ค้าได้คืนเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ให้กับ WORLD ผ่านนางสาวจิรวินและนายจิรศักดิ์แล้ว แต่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่านายจิรศักดิ์หรือนางสาวจิรวินได้นำเงินจำนวนดังกล่าวกลับไปคืนให้ WORLD แต่อย่างใด และแม้ว่าต่อมาในปี 2566 นางสาวจิรวินจะได้นำเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยไปคืนให้กับ WORLD แล้ว แต่การกระทำความผิดตามที่กล่าวข้างต้นนั้น ได้สำเร็จไปตั้งแต่มีการเบียดบังเงินดังกล่าวไปเป็นของตนโดยทุจริตแล้ว

การกระทำของนายจิรศักดิ์และนางสาวจิรวิน เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 308 มาตรา 311 มาตรา 313 และมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้วแต่กรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 2 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

การถูกกล่าวโทษข้างต้นมีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียน นับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 3/2560
 

TAGS: #WORLD