ในปีที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาในประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนก็ยังเลือกท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยเช่นกัน
ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารหลายรายได้เริ่มปรับโฉมสถานที่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ TheBetter จึงจะพาไปดูหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ในหมวดวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ว่าในปี 2565 จะมีผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง
โดยบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO รายงานผลประกอบการปี 2565 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,217.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 776.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามรายได้รวมของบริษัทฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งเดินหน้าขยายสาขาทั้ง โฮมโปรและเมกาโฮม จากการมองเห็นโอกาส เติบโตทางธุรกิจสบืเนื่องมาจากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยเปิดสาขาโฮมโปรใหม่ 2 สาขาที่ฟิวเจอรพ์ารค์รังสิต ทดแทนสาขารังสิตเดิม และ เปิดสาขาลาดกระบังทดแทนโฮมโปรเอส สาขาเดอะพาซิโอ ลาดกระบังเดิม
อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่ 4 สาขา ที่ พัทยา ฉะเชิงเทรา สุราษฎร์ธานี และ ขอนแก่น ซึ่ง ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 18 สาขา โฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา และโฮมโปรในประเทศเวียดนามที่ยังจาหน่ายสินคา้ ผ่านช่องทาง E-marketplace เป็นหลัก
ด้าน บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) หรือ GLOBAL รายงานผลประกอบการปี 2565 โดยบริษัทฯมีกําไรสุทธิ เท่ากับ 3,348.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.86 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 3.20% ซึ่งเป็นไปตามรายได้รวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้รวมในปี2565 เท่ากับ 35,978.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จํานวน 1,862.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.46%
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ดําเนินการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาเกาะสมุย(จ.สุราษฎร์ธานี) และสาขาพรเจริญ(จ.บึงกาฬ) ส่งผลให้สิ้นปี 2565 มีจํานวนสาขาที่เปิดดําเนินการแล้วในประเทศรวม 77 สาขา และ สาขาของบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชา 1 สาขา
ขณะที่ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME รายงานผลประกอบการปี 2565 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 774.07 ล้านบาท ลดลง 57.4% จากปี 2564 โดยมีสาเหตุมากจาก อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงมากของ ของสินค้ากลุ่มก่อสร้างจากความผันผวนของราคาและฐานที่สูงในปี 2564 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการป้องกันน้ำท่วมในบางสาขา
สำหรับการขยายสาขาในปี 2565 บริษัทฯมีการเปิดสาขาใหญ่เพิ่ม 5 สาขา ได้แก่ สาขาหาดใหญ่ สาขาพิษณุโลก สาขากาญจนบุรี สาขาบุรีรัมย์ และสาขาชัยภูมิ ทำให้มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 21 สาขา และมีสาขาขนาดเล็ก (Dohome ToGo) เปิดบริการทั้งสิ้น 9 สาขา