WHART ขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ลงทุนคลังสินค้า-โรงงาน 3 โครงการ 3.57 พันล้านบาท

WHART ขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ลงทุนคลังสินค้า-โรงงาน 3 โครงการ 3.57 พันล้านบาท
WHART ขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ลงทุนคลังสินค้า-โรงงาน 3 โครงการ 3.57 พันล้านบาท ดันมูลค่ากองฯแตะ 5.5 หมื่นล้านบาท

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) “WHA Group” เปิดเผยในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ว่า ในปี2566 นี้ กองทรัสต์ WHART ประกาศเดินหน้าตอกย้ำสู่การขยายอาณาจักรการเป็นผู้นำกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายหลังจาการเพิ่มทุนในปี 2566 จำนวนไม่เกิน 195.90 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2566 มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท 

ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศ โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร โดยเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป(General Warehouse)  สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เป็นคลังสินค้า  รูปแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse พื้นที่เช่า 90,862 ตร.ม.

2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1 เป็นคลังสินค้า รูปแบบGeneral Warehouse พื้นที่เช่า 24,310 ตร.ม

3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 เป็นคลังสินค้าและโรงงานแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 27,724 ตร.ม. 

“ความโดดเด่นการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ได้แก่ตัวของทรัพย์สินเอง ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่เข้าลงทุน ถือเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลโลจิกติกส์ที่สำคัญ อย่างบางนา-ตราดและ EEC อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้เช่าที่มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคงอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer) ซึ่งการได้ผู้เช่าที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคง และสร้างประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 

ทั้งนี้การที่กองทรัสต์ WHART มีการขยายขนาดกองทรัสต์จากการลงทุนเพิ่มเติมในทุกปี ส่งผลให้กองทรัสต์ฯ มีความมั่นคงทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังกระจายความเสี่ยง ไม่ว่าจะในด้านของทำเลทรัพย์สินที่ลงทุน สัญชาติของผู้เช่ารวมถึงความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจของผู้เช่า (Business Sector) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยทำให้ภาพรวมผลประกอบการของกองทรัสต์ WHART อยู่ในระดับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดกองทรัสต์ WHART แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 รายได้รวมเท่ากับ 840.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น39.29 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.90 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2565 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ เท่ากับ 644.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.20 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.42 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

 

TAGS: #WHART