GBS ประเมินหุ้นไทยเดือนแรกของปี 2567 ยังแกว่งตัว Sideway ได้แรงหนุนจากโครงการ Easy E-Receipt ของภาครัฐ คาดกรอบดัชนีที่ 1,400-1,450 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากนโยบาย Easy E-Receipt
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมกราคม 2567 ว่า ดัชนีแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้างคาดกรอบดัชนีที่ 1,400-1,450 จุดโดยมีแรงหนุนจากมาตรการ Easy E-Receipt ของภาครัฐ ขณะที่มีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นและปัจจัยในประเทศมีประเด็นกังวลการ Roll Over หุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ
การที่ ADP เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม สูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 130,000 ตำแหน่งทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุน 54% คาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 ลดจาก 73% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ปัจจัยบวกในประเทศทางกระทรวงคมนาคมเตรียมพร้อมจัดแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยว-สายการบินเต็มที่ โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 8 ล้านคน ฟื้นตัว 75%YoY และด้านการค้าโลกในปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัว 3.3% จาก 0.8% ในปี 2566 สนับสนุนสภาผู้ส่งออกคาดแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 พลิกเติบโตได้ 1-2% จากหดตัว 1% ในปี 2566
นอกจากนี้ทางกรมสรรพสามิตเตรียมผลักดัน 4 มาตรการภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมออกมาภายในปีนี้ในการสนับสนุนการใช้แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า การเก็บภาษีคาร์บอนจากน้ำมันเบนซินและดีเซล ภาษีส่งเสริมการใช้ไบโอพลาสติก และมาตรการภาษีเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคตที่เพิ่มขึ้น
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนหุ้นเด่น IAA Consensus ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในระยะยาว ได้แก่ AOT, CPALL, CPN และ GPSC และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย Easy E-Receipt : BJC, CPALL, CPAXT, COM7, SPVI, CPW, JMART, HMPRO, DOHOME, GLOBAL, ZEN, M, AU, TNP และ KK