MGI โชว์ผลงานปี2566 กวาดกำไร 119.25 ล้านบาท โต 149.22% รับธุรกิจขายสิยค้าใน TikTok ได้กระแสดี ตัวศิลปินที่ได้จากการประกวดยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง
บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เผยผลประกอบการปี 2566 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ 119.25 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 149.22 จากปี 2565 เนื่องจากธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าของบริษัทผ่านช่องทางจําหน่าย ใหม่คือ TikTok จึงส่งผลทําให้ตัวแทนขายสินค้าที่อยู่บน Platform TikTok Shop หลายรายเห็นว่าสินค้าของบริษัทฯ ขายง่ายและขายได้ จึงดึงสินค้าในตะกร้าบริษัทฯ ไปขายเป็นจํานวนมาก บริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี
รวมถึงธุรกิจสื่อและบันเทิง และ ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน มีการเติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 โดยปัจจุบัน ศิลปินที่ได้จากการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023ก็ยังคงได้รับ ความนิยมเป็นที่ชื่นชอบ เช่น อุ้ม ทวีพร พริ้งจํารัส , มีนา ริณา ฉัตรอมรชัย , แสน๊กอัจฉรีย์ศรีสุข และ ไผ่หลิว กมลวลัย ประจักษ์รัตนกุล เป็นต้น และกระแสความนิยมจาก อิงฟ้าวราหะ และ ชาล็อต ออสติน ก็ยังคง มีต่อเนื่อง และทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงบริหารค่าใช้จ่ายทางการตลาดได้ตํ่าเนื่องจากบริษัทฯ เป็นบริษัทมีช่องทางในการสื่อสารข้อมูลให้ลูกค้าเป็นช่องทางของตนเองที่แทบจะไม่มีต้นทุนดังนั้นค่าใช้จ่ายการขายของบริษัทจึงตํ่ามาก
ขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวม 184.07 ล้านบาทและ 616.13 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี2566 และประจําปี2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.13 และ ร้อยละ 92.78 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4 ปี 2565 และประจําปี 2565 เนื่องจากการเติมโตในทุก ๆ ธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากพาณิชย์รายได้จากการประกวด รายได้จากศิลปิน รายได้จากสื่อและบันเทิง เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับในการทําธุรกิจทุก ๆ กิจกรรม มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 5 ประเภทดังนี้
1. รายได้จากการขายสินค้า สินค้าของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.1 สินค้าอุปโภค มีรายได้จํานวน 61.15 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 149.35 ล้านบาท ในงวดปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 170.10 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.96 จาก งวดปี 2565
1.2 สินค้าบริโภค มีรายได้จํานวน 17.00 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 105.26ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 319.75 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 332.81 จากปี 2565
2. รายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิง
บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิง จํานวน 30.66 ในงวด ไตรมาส 4 ปี 2566 และ 112.74 ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.76 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.51 จากปี 2565
3. รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน
บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน จํานวน 34.68 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 4 ปี 2566 และ 134.66 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.36 จากงวดไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 115.46 จากปี 2565
4. รายได้จากธุรกิจการจัดประกวด
ในงวดปี 2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจการประกวดนางงาม มิสแกรนด์เท่ากับ 85.05 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.69 จากงวดปี2565 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากผู้สนับสนุน (Sponsor) และรายได้ค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น มากกว่าปี 2565
5. รายได้จากธุรกิจการเช่าช่วง MGI Hall
บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าช่วงในงวดปี 2566 จํานวน 24.31 ล้านบาท โดยบริษัทไม่มีรายได้จากค่าเช่าช่วง MGI Hall ในระหว่างปี 2565 แต่อย่างใด ทั้งนี้ก่อนหน้าการเข้าทําสัญญาเช่าอาคารดังกล่าวบริษัทได้เคย เช่าพื้นที่ของโครงการห้างโชว์ดีซีสําหรับธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ไทยแลนด์ (MGT) เช่น การประกวด MGT2022 เป็นต้น แต่เป็นการเช่าพื้นที่แบบครั้งเดียวจบจํานวน 12.85 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเข้าทําสัญญาเช่าอาคารเป็นระยะเวลา 1 ปี ในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯจะสามารถสร้างรายได้จากการให้บุคคลอื่นเช่าช่วงสถานที่เพื่อใช้งานต่อไป
สำหรับสินค้าของบริษัทฯ ที่ขายดีที่สุด 5 อันดับ ในปี2566
อันดับ 1 นํ้าพริกปลาสลิด ตรานางงาม
อันดับ 2 นํ้าหอม 4 กลิ่น ตราฟินเวอร์
อันดับ 3 NangNgam Sun Screen Serum
อันดับ 4 NangNgam Neck Serum
อันดับ 5 NangNgam Anti – Melasma & Dark Spot Cream