โบรกฯคาดวันนี้ SET ปรับตัวลดลง รับปัจจัยกดดัน Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก

โบรกฯคาดวันนี้ SET ปรับตัวลดลง รับปัจจัยกดดัน Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก
โบรกฯคาดวันนี้ SET ปรับตัวลดลงรับปัจจัยกดดัน Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก แนะนำ“Selective Buy”

 

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) คาดวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง โดยได้รับปัจจัยกดดัน หลังถ้อยแถลงของ Powell ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หนุนดอลลาร์แข็งค่า และบาทกลับมาอ่อนค่าเป็นปัจจัยลบต่อทิศทาง fund flow ให้ไหลออกต่อ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1607 และ 1600 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1625-1630

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Down โดยตลาดจะกลับไปโฟกัสที่เศรษฐกิจมหภาคมากขึ้น ซึ่งน่าจะยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ดอกเบี้ยขาขึ้นรวมทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้นกลยุทธ์การ

ลงทุนแนะนำ “Selective Buy”

Weekly Portfolio

มอง SET ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และจะกลับไปโฟกัสที่เศรษฐกิจมหภาคมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ

“Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ดังนี้

1) หุ้นที่น่าสนใจลงทุน หาก SET หลุด 1600 โดยในแง่พื้นฐานธุรกิจยังแข็งแกร่ง, Valuation มี upside น่าสนใจเกิน 20% อีกทั้งราคาหุ้นปรับลงแรง YTD และแย่กว่า SET เลือก PTTEP HMPROCPALL SCGP GULF

2) หุ้นที่คาดผลบวกเชิงจิตวิทยาและอานิสงส์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงเลือกตั้ง เลือก กลุ่มสื่อ BEC MAJOR และกลุ่มค้าปลีก CPN

3) หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี โดยเน้นจ่ายปันผลต่อเนื่อง 20 ปีขึ้นไป คาดให้ Div. Yield (หลังหักจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว) ปี 65 สูงเกิน 4% และปี 66 คาด Div. Yield ดีขึ้นหรือใกล้เคียงเดิม อีกทั้งปี 66 ผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งราคาหุ้นยังมี Upsideเกิน 15% เลือก KTB และ AP

ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงราคาปรับตัวลงหรือ Underperform ตลาด สำหรับ

1) หุ้นที่โดนปรับลดประมาณการกำไรหรือ Downgrade/ราคามี Downside/มีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ ได้แก่ AEONTS BEM SAWAD TCAP TIDLOR TLI TTB MST MTC TQM

2) หุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 คาดยังหดตัวต่อ YoY และ QoQ ได้แก่ GFPT CPF BTS ASP

Daily focus

ADVANC 1Q66 คาดกำไรเติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากมาตรการควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง (ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดน่าจะมีแนวโน้มลดลง) และรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวดีขึ้น

SCGP ปี 2566 คาดกำไรเติบโต 22%YoY จากการรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำใน 1H66 และปริมาณการขายที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นใน 1H66 โดยจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้นใน 2H66 จากการเปิดประเทศของจีน