วายแอลจี คงเป้าหมายราคาทองคำปี 2567 ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่มองจะถึงเป้าหมายเร็วขึ้นในครึ่งปีแรก ส่วนทองคำในประเทศให้เป้าหมายที่ 40,000 บาท/บาททองคำ เชื่อเทรนด์ขา 2- 3 ปี
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกทั้งที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ส่งผลให้นับจากต้นปีราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 7.3 %
ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมาครั้งนี้นอกจากจะมีปัจจัยพื้นฐานด้านนโยบายดอกเบี้ยที่เป็นที่แน่ชัดว่าปีนี้ต้องปรับลงแล้ว ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานของสหรัฐ ล่าสุดที่มีอัตราการว่างงานที่ 3.9% สูงกว่ารอบก่อนและสูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.7% จากความกังวลเรื่องอัตราการว่างงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องราคายกระดับต่ำสุดและระดับสูงสุดแบบรายวัน บ่งชี้ว่ายังมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
ขณะที่ภาพรวมระยะกลางสัญญาณยังเป็นบวก โดยในปีนี้แม้ราคาจะปรับขึ้นมามากแล้วแต่ YLG ยังคงให้เป้าหมายไว้ที่เดิมที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ได้ปรับมุมมองว่าราคาทองคำอาจไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยอาจจะได้เห็นภายในครึ่งปีแรก ส่วนระยะยาว 2 – 3 ปี ทิศทางทองคำยังคงเป็นบวกต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเป็นทิศทางขาลงไปอีก 2 – 3 ปี ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้นมองว่ามีโอกาสถึง 40,000 บาทต่อบาททองคำภายในครึ่งปีแรกเช่นกัน
สำหรับระยะสั้นมีคำแนะนำเก็งกำไรได้ โดยหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงและสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 2,169-2,163 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนะนำหาจังหวะตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 2,144 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทยอยขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,195-2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
“ปีนี้ทองคำอาจเข้าถึงเป้าหมายเร็วขึ้น เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำปัจจุบันมาจากออนไลน์เพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว เฉพาะในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 5 ล้านล้านบาท ต่อปี โดยมูลค่าการซื้อขายดังกล่าวมาจากทองคำกาย 35% และ 65% มาจากมูลค่าการซื้อขายทองคำดิจิทัลซึ่งเป็นการซื้อขายเพื่อการลงทุน ที่ตลาดทองคำได้พัฒนาระบบการซื้อขายบนบลอกเชน ทำให้สามารถเกิดความคล่องตัวในการซื้อในหน่วยที่เล็กมากเพียง 0.0001 กรัม หรือใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท” นางพวรรณ์ กล่าว
นอกจากนี้พบว่ามูลค่าการซื้อขายทองคำในระบบออนไลน์ยังมาจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากตลาดฟิวเจอร์สเป็นการเข้าถึงการเทรดในตลาดระดับโลก เช่นการซื้อขายผ่าน TradingView ด้วยบัญชี YLG Futures ที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนฟิวเจอร์สใน ตลาด CME Group ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุม ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย ซึ่งจุดเด่นของการลงทุนทองคำในฟิวเจอร์สคือสามารถลงทุนได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง
ทั้งนี้หากนักลงทุนต้องการสะสมทองคำเพื่อสร้างความมั่งคั่งระยะยาว วายแอลจีแนะนำลงทุนแบบ Dollar Cost Average (DCA) วิธีการลงทุนที่ใช้วินัย แทนอารมณ์ ค่อยๆสะสม หรือออมทองคำอย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชันออมทอง by YLG (Get Gold by YLG) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ทโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาทเท่านั้น ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/40npYkF หรือโทร. 0-2678-9888 #2
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ CME Group สามารถเทรดผ่านโปรแกรม ผ่าน TradingView ด้วยบัญชี YLG Futures รับทันที “ทองคำ 99.99% น้ำหนัก 1 กรัม" เมื่อเทรดผ่าน TradingView จะเป็นลูกค้าเก่าหรือใหม่ โดยเติมเงินขั้นต่ำ $1,000 พร้อมซื้อ-ขายครบ 100 สัญญา GlobalMarket (Micro) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2567 สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3UyLLoY อีกทั้งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำรูปแบบลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งในไทยและต่างประเทศ วายแอลจีแนะนำบริการ เปิดบัญชี TFEX กับ YLG Futures รับส่วนลดพิเศษค่าคอมมิชชั่นลดสูงสุดที่ 80% บนแอปฯ Streaming ตั้งแต่สัญญาแรก โดยไม่มีขั้นต่ำ ผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3sVW9eO