บี.กริม เพาเวอร์ ลงทุนโซลาร์เซลส์ 100 เมกะวัตต์ในโรงปูนซีเมนต์นครหลวงที่สระบุรี เดินหน้าผลิตพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บี.กริม เพาเวอร์ และ ปูนซีเมนต์นครหลวง ลงนามความร่วมมือจัดตั้ง บริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ จำกัดใช้งบลงทุน 1,900 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินภายในพื้นที่โรงงานปูนซีเมนต์นครหลวง จังหวัดสระบุรี โดย บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้นร้อยละ 25 และ ปูนซีเมนต์นครหลวง ถือหุ้นร้อยละ 75
ทั้งนี้ บริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ จำกัด (IBS) จัดตั้งขึ้น เพื่อประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและติดตั้งบนพื้นดิน ภายในพื้นที่โรงงานปูนซีเมนต์นครหลวง จังหวัดสระบุรี โดยมีเป้าหมายสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา บี.กริม เพาเวอร์ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ Green Leap สนับสนุนการขยายโครงการพลังงานหมุนเวียน รวมถึงจัดหาพลังงานที่สะอาด ยั่งยืน มีเสถียรภาพในระดับสูง และราคาที่เข้าถึงได้ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญของยุทธศาสตร์ Green Leap คือการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจและจับมือกันก้าวสู่ความยั่งยืน
สำหรับความร่วมมือกับปูนซีเมนต์นครหลวงครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและประเทศด้วยพลังงานสะอาด
โดย บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้สูงกว่า 50% ในปี 2573 และมุ่งสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero Carbon Emission ภายในปี 2593
ด้าน นายมนตรี นิธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจปูนซีเมนต์ของประเทศไทย ภายใต้ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ ปูนอินทรี กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานสะอาดครั้งนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี พ.ศ. 2537 หรือ INSEE Sustainability Ambition 2030 ที่ตั้งเป้าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าทางเลือกให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 20 ของกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ จำกัด แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2567 แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 มีขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 83.79 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 112 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง และคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 54,000 ตันต่อปี ส่วนเฟสที่ 2 จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 22 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1,920 ล้านบาท โดย บี.กริม เพาเวอร์ จะลงทุนประมาณ 480 ล้านบาทตามสัดส่วนการถือหุ้น