‘เจ้าสัว’ ก้าวสู่ระดับ Global ส่งแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และ ‘โฮลซัม’ บุกตลาดโลก เร่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ใหม่

‘เจ้าสัว’ ก้าวสู่ระดับ Global ส่งแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และ ‘โฮลซัม’ บุกตลาดโลก เร่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ใหม่
เจ้าสัว หรือ CHAO ประกาศยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการเติบโตสู่ระดับ Global ส่งแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และ ‘โฮลซัม’ บุกตลาดโลก ภายใต้แนวคิด ‘Bring Local to Global’ เร่งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ใหม่

ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายสร้างการเติบโตสู่ตลาดระดับโลกในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ‘เจ้าสัว’และ ‘โฮลซัม (Wholesome)’ ไปสู่ Global Brand ภายใต้แนวคิด ‘Bring Local to Global’ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยจุดแข็งและข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ จากการเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีแบรนด์เจ้าสัวที่แข็งแกร่งและได้รับความนิยมสูงมาอย่างยาวนาน

นอกจากนี้ยังมีความรู้ความเข้าใจในเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน รวมทั้งการมีทีมผู้บริหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เจ้าสัวเติบโตในตลาดระดับโลก

“การนำเจ้าสัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน เพื่อรองรับศักยภาพการเติบโตไปสู่ตลาดระดับโลก โดยปัจจุบันเจ้าสัวส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้วกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้บริโภคให้การตอบรับอย่างดี สะท้อนผ่านผลประกอบการในช่องทางการส่งออกที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2564 มีรายได้จากการส่งออก 216.6 ล้านบาท และในปี 2566 เติบโตสูงถึง 413.3 ล้านบาท เราวางแผนในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เจ้าสัวเติบโตตามเป้าหมายที่วางเอาไว้” ณภัทร กล่าว

**ชู 6 กลยุทธ์หลักเติบโตอย่างยั่งยืน**

ด้านสิริณัฏฐ์ ชญาน์นันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO กล่าวว่า เจ้าสัวมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนด้วย 6 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 

1) มุ่งเน้นการขยายตลาดในต่างประเทศ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มประเทศเป้าหมาย ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มตัวแทนกระจายสินค้า และขยายการส่งออกไปสู่กลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตสูง 

2) นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อยกลมกล่อมถูกปากผู้บริโภค เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการวิจัยทางการตลาด และติดตามเทรนด์การบริโภคในปัจจุบัน เพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างความแตกต่างเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน และรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

3) สร้างการรับรู้ของแบรนด์เจ้าสัวให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากรูปแบบเดิม พร้อมการสื่อสารการตลาดอย่างครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ครองใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ในการเป็นขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ที่ผู้บริโภคนึกถึง (Top of Mind) 

4) พัฒนาสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวเพิ่มเติมให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Product Portfolio) ให้มีความหลากหลายของรสชาติและรูปแบบ ให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การบริโภคในทุกช่วงวัย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของรายได้ 

5) ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและขยายฐานลูกค้า ด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละช่องทาง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น รวมทั้งขยายฐานลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์แบบชุดของขวัญ (Gift Set) สำหรับใช้เป็นของฝาก 

6) บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ลงทุนในระบบอัตโนมัติ (Automation) ยกระดับคุณภาพการผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร 

ด้าน อินทุอร โมรินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าสัวสามารถสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องโดยในปี 2564 2565 และ 2566 เจ้าสัวมีรายได้จากการขายที่ 1,135.1 ล้านบาท 1,413.6 ล้านบาท และ 1,493.4 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 14.7% ต่อปี 

ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1/2567 มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 336.2 ล้านบาท เติบโต 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว (Snack) ที่บริษัทฯ เชื่อว่ามีศักยภาพเติบโตสูง 

ด้านกำไรสุทธิในปี 2564 2565 และ 2566 ทำได้ 64.4 ล้านบาท 86.6 ล้านบาท และ 161.6 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 58.4% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 5.6% 6.1% และ 10.7% ตามลำดับโดยกำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการประหยัดต่อขนาด(Economies of Scale) 

ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 ทำได้ 26.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ด้านพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การนำ ‘บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี’ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจสู่ตลาดระดับโลก ผ่านการก่อสร้างโรงงานโฮลซัมแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงงานที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก การขยายกำลังการผลิต พัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation) และปรับปรุงระบบควบคุมคุณภาพ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการบริหารธุรกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 

ทั้งนี้ ล่าสุด CHAO ได้รับอนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน (IPO) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 87,684,100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 29.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดราคาเสนอขาย และวันจองซื้อ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

TAGS: #เจ้าสัว #CHAO #ข้าวตัง