บล.เมย์แบงก์ เปิด 3 ธีมหลักน่าลงทุนใน Q3/67

บล.เมย์แบงก์ เปิด 3 ธีมหลักน่าลงทุนใน Q3/67
บล.เมย์แบงก์ เปิด 3 ธีมหลักลงทุนใน Q3/67 หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน TASCO, SCCC, CK -ท่องเที่ยว AOT, CENTEL, BH และกลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น GPSC, ADVANC

บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)  กล่าวว่า แม้ว่าดัชนี SET Index จะยังดูไม่ค่อยมีแรงวิ่ง แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกและคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและโมเมนตัมของกำไร ตามที่เรารายงานไปก่อนหน้านี้ เราเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองน่าจะคลี่คลายได้ในเร็วๆ นี้ และด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง (แนวโน้มการเติบโตที่ดี Valuation ที่ไม่แพง) เราเชื่อว่า SET Index ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ใน 2H67 เราขอนำเสนอ 3 ธีมหลักสำหรับการลงทุนใน 3Q24  โดยเน้นหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน/รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น

1.หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน TASCO, SCCC, CK

เราคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการลงทุนของรัฐบาล (capex) จะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญใน 3Q67 โดย ณ วันที่ 21 มิถุนายน การเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งรวมถึงใบสั่งซื้อ (PO) สูงถึง 52% ของงบประมาณปีงบประมาณ 67 เพิ่มขึ้นจากเพียง 18%

ณ สิ้นเดือน มี.ค. TASCO ยังคงเป็นหุ้นเด่นสุดสำหรับธีมนี้ เนื่องจากปริมาณอาจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า QoQ ใน 2Q67 ขณะที่อัตรากำไรของยางมะตอยซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 บาท/ตันในเดือน พ.ค.จาก 8,600 บาทในเดือน มี.ค.

ขณะที่ไตรมาส 3/67 มีแนวโน้มจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังชอบ SCCC เนื่องจากเราคาดว่าราคาปูนซีเมนต์จะสูงขึ้นและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

สุดท้าย เราชอบ CK จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งน่าจะมี Backlog เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากระดับปัจจุบันที่ 1.20 แสนล้านบาท ราคาหุ้น CK ร่วงแรงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองแม้จะมีปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น และเรามองว่านี่เป็นโอกาสในการซื้อ

2.กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, BH

เรายังคงมั่นใจในด้านการท่องเที่ยวและคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน และ 41 ล้านคนในปี 67-68 หลังจากผ่านช่วงโลว์ซีซั่นใน 2Q67 เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโตต่อไปจนถึงปลาย 1Q68 ปัจจัยนี้คาดว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นและผลักดันการเติบโตของรายได้สำหรับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้

นอกจาก AOT แล้ว เรายังเลือก CENTEL และ BH เป็นหุ้นเด่นของเราอีกด้วย โดยประเมินว่า CENTEL จะ มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจากโรงแรมในญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตในประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้เรายังคาดว่า BH จะมีกำไรเติบโต 15% ในปี 67 โดยได้แรงหนุนจากการขยายความจุเตียงและการปรับขึ้นราคา BH ได้รับประโยชน์สูงสุดจากบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการรักษาพยาบาลระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติสูงที่สุด

3.กลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น GPSC, ADVANC

เรามองว่าการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของกำไรของตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในปี 67 จากการวิเคราะห์กลุ่มหลักทรัพย์ที่เราศึกษา ซึ่งไม่รวมกลุ่มธนาคารและการเงิน พบว่าเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มพลังงานและยานยนต์ มีแนวโน้มที่จะเห็นการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นในปี 67โดยรวมแล้ว อัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็น 4.81% และ 5.36% ในปี 67-68 จาก 4.35% ในปี 66 ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของกำไรในกลุ่มหลักทรัพย์ที่เราวิเคราะห์ (ยกเว้นกลุ่มธนาคารและการเงิน) ให้เพิ่มขึ้น 16%

 

TAGS: #Q3 #ตลาดหุ้นไทย #หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน #หุ้นท่องเที่ยว