CHAO เร่งเครื่องบุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ มุ่งผลักดันแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และแบรนด์ ‘โฮลซัม’ สู่การเป็น Global Brand ยกระดับแบรนด์ไทยในตลาดระดับโลก ปักธงดันสัดส่วนรายได้จากตปท.โตทะลุ 38% ภายในปี 2569
ณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตตามแผนงานที่วางไว้ ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ เพื่อผลักดันแบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และแบรนด์ ‘โฮลซัม’ สู่ตลาดระดับโลก มุ่งตอบสนองเทรนด์การบริโภคของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มุ่งเน้นการรับประทานอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ หรือ Better-for-You Snack
โดยในเดือนกรกฎาคม 2567 กลุ่มบริษัทฯ ได้มีการขยายตลาดส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ ‘เจ้าสัว’ และแบรนด์ ‘โฮลซัม’ ในกลุ่มอาหาร ทั้งประเภทอาหารฮาลาลและไม่ใช่อาหารฮาลาลใน 3 ประเทศ โดยได้ส่งสินค้าไปยัง
1) ประเทศอินโดนีเซีย กลุ่มบริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ในอินโดนีเซียอย่าง ‘CV Aneka’ เริ่มขยายตลาดเพื่อมุ่งเน้นกลุ่มผู้บริโภค 2 กลุ่ม โดยได้เริ่มส่งสินค้าล็อตแรก เป็นสินค้าประเภทที่ไม่ใช่อาหารฮาลาล (Non-Halal) อาทิเช่น ข้าวตังหน้าหมูหยอง, หมูหยองพริกเผา, สำหรับกลุ่มสินค้าฮาลาล (Halal) อาทิ ข้าวตังหน้าหมูหยองสาหร่าย, หน้ากุ้ง และหมึกย่างสวีทชิลลี่, fish snack, แครกเกอร์ธัญพืช, Nuts & Grains ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาตขึ้นทะเบียนคาดว่าจะสามารถ ส่งออกไปได้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
2) ประเทศฟิลิปปินส์ กลุ่มบริษัทฯ ส่งออกสินค้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อย่าง ‘Landers Superstore’ ซึ่งมีหน้าร้านกว่า 8 สาขาทั่วประเทศ และช่องทาง Online platform ด้วยสินค้าขายดี อาทิ ข้าวตังหน้าหมูหยอง, หน้าหมูหยองพริกเผา, หน้าหมูหยองสาหร่าย, หน้ากุ้ง, และหมึกย่างสวีทชิลลี่ รวมถึงข้าวตังรูปแบบกล่องที่เป็นรสชาติพิเศษ อย่างข้าวตังหน้าไก่หยองเผ็ด ไก่หยองสาหร่าย และต้มยำกุ้ง เป็นต้น
3) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์เจ้าสัว ผ่านช่องทาง Wemart Supermarket ด้วยสินค้ากลุ่ม Halal เช่น ข้าวตังหน้า seafood, หนังปลากรอบ, แครกเกอร์ธัญพืช และสินค้ากลุ่มถั่วต่างๆ
“เจ้าสัวมุ่งมั่นสร้างการเติบโตตามแผนที่วางไว้ โดยเน้นขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลักดันแบรนด์ 'เจ้าสัว' และ 'โฮลซัม' สู่ระดับโลก ผ่านการขยายตลาดสู่กลุ่มสินค้าฮาลาลควบคู่กับการขยายตลาดสินค้าที่ไม่ใช่ฮาลาล ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” ณภัทร กล่าว