AQUA เดินเกมธุรกิจร้านอาหาร ชูเป็นเรือธงในกลุ่มดันรายได้รวมปี 2568 แตะกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมอยู่ระหว่างขยายแบรนด์เพิ่มเติม
ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยกำลังฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 หลายร้านอาหารมีการปรับตัวและนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อดึงดูดลูกค้า รวมถึงผู้ประกอบการหลายรายก็ได้มีการร่วมมือกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดมากขึ้น
ล่าสุด บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ได้ร่วมมือกับพันทมิตรผู้มี passion ด้านอาหาร ได้แก่ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด และเบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก จัดตั้ง บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง หรือ FAB เพื่อลุยธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทย
โดย ฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ได้กล่าวว่า FAB ได้รวม 8 แบรนด์อาหารดัง ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน มาไว้ภายใต้ร่มคันเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 204 สาขา และปีหน้าคาดว่าจะมีสาขารวมเพิ่มเป็น 250 สาขา
โดยทั้ง 3 พาร์ทเนอร์ต่างมีเป้าหมายเดียวกันและมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งมองว่าการทำ Synergy ร่วมกันในครั้งนี้จะผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น
ด้าน ชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ AQUA ถือหุ้น 51% โดยใช้เงินลงทุนจำนวน 1,275 ล้านบาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และขายเงินลงทุนบางส่วน และมีเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ซึ่งหลังการลงทุนครั้งจะถือเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทฯ และธุรกิจร้านอาหารจะเป็นอีกหนึ่งเรือธงในขับการเคลื่อนธุรกิจของ AQUA โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างวางแผนเพื่อที่จะขยายแบรนด์ร้านอาหารในเครือเพิ่มเติม เบื้องต้นจะเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 2568 รายได้รวมจะสามารถทำได้กว่า 2,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าทำได้ 1,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ในปีหน้าคาดว่าจะมาจากธุรกิจอาหารประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจคลังสินค้า และธุรกิจโลจิสติกส์
ชัยพิพัฒน์ ได้ย้ำถึงสถานะทางการเงินของ AQUA ว่ายังคงแข็งแกร่ง โดยล่าสุดบริษัทฯมีแผนออกหุ้นกู้ครั้งใหม่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ มูลค่า 600 ล้านบาท คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 7-7.2% โดยปัจจุบันยื่นไฟลิ่งแล้ว และอยู่ระหว่างรอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. อนุมัติ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมมูลค่า 629 ล้านบาทครบเป็นที่เรียบร้อย