NAT มองครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง คาดคว้างานใหม่ 28 โครงการ พร้อมเจรจาพันธมิตรต่างประเทศศึกษาแตกไลน์ธุรกิจ ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 30%

ปัจจุบันภาครัฐและเอกชน ต่างหันมาแข่งขันกันในด้านการประมวลผลข้อมูล Big data และ การขับเคลื่อนแผนธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยี AI ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โลจิสติกส์ และ การท่องเที่ยว ที่กระตุ้นการทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์มากขึ้น

การขยายตัวของธุรกิจดังกล่าวจะทำให้ปริมาณข้อมูลดิจิทัลเพิ่มขึ้นตามด้วย จากการคาดการณ์ของศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ถึงปริมาณข้อมูลดิจิทัลของไทยในปี 2573 จะเพิ่มขึ้น 3.7 เท่า จากปี 2565

สุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีของบริษัท ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบบริการด้าน Data Center และ Cybersecurity รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยจุดแข็งในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีโดยตรง 

โดยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังแนวโน้มยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 บริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) จำนวน 53 โครงการ มูลค่ารวม 684.64 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จำนวน 641.86 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า จำนวน 42.78 ล้านบาท 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่องทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ โดยครึ่งปีหลังนี้มีแผนเข้าร่วมประมูลจำนวน 28 โครงการ มูลค่ารวม 500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯคาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 80% ของมูลค่ารวม ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐและเอกชนในส่วนรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 67.55% และ 32.45% ตามลำดับ

ดังนั้นจากปัจจัยข้างต้นจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีรายได้รวมในปี 2567 เติบโต 30% จากปีก่อนทำได้ 1,555 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถทำรายได้แล้ว 1,324 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 14% อีกด้วย

“เรามองว่ารายได้และกำไรของเราจะเติบโตและทำนิวไฮต่อเนื่อง แผนสร้างการเติบโตผ่านการขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมจากกลุ่มเดิมไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มความต้องการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่จะสร้างรายได้ และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับบริษัท เช่น กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ และ กลุ่มธุรกิจพลังงาน” สุธี กล่าว

สุธี กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อแตกไลน์ธุรกิจ โดยเบื้องต้นสนใจในธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงาน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันทมิตรจากต่างประเทศหากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง