ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมใช้ 3 มาตรการ Dynamic Price Band , Auction , Minimum Resting Time เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนนี้ หวังคุมประพฤติการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม และช่วยให้นักลงทุนมีสติก่อนลงทุน

รองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ในฐานะโฆษก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันที่ 2 กันยายน 2567 ตลาดหลักทรัพย์เตรียมใช้ 3 มาตรการเพื่อคุมประพฤติการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม หวังลดความผันผวนและช่วยให้นักลงทุนมีสติก่อนซื้อขายมากขึ้น

โดยมีตั้งแต่มาตรการกำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band (DPB)การซื้อขายด้วยวิธีจับคู่ซื้อขายในคราวเดียว (Auction) และการกำหนดให้คำสั่งซื้อขายต้องคงอยู่ในระบบซื้อขาย (Minimum Resting Time) 

1. Dynamic Price Band (DPB) จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการเทขายรวดเดียวทำให้ราคาลดลงมาแรงได้ เป็นการชะลอความผันผวนของราคา โดยการกำหนดกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ (±10% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น) เพิ่มเติมจาก Ceiling & Floor ในปัจจุบัน (±30% จากราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า) เพื่อเพิ่มกลไกในการควบคุมความผันผวนของราคาซื้อขายหลักทรัพย์ 

สำหรับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่จะใช้ DPB เฟดที่ 1 ได้แก่ หุ้นสามัญ, หน่วยทรัสต์ เช่น REIT, หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น Property Fund ที่มีราคามากกว่า 1 บาท ซึ่งจะไม่รวมหลักทรัพย์ ที่มีหลักทรัพย์ข้างต้นเป็น Underlying เช่น DW, หลักทรัพย์ที่ซื้อขายแบบหน่วยย่อย (Odd-lot) และหลักทรัพย์ (Foreign) ซึ่งมาตรการนี้จะไม่ใช้กับหุ้น IPO ที่มีการซื้อขายเป็นวันแรก

2.เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติ จากมาตรการฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเพิ่มวิธีจับคู่ซื้อขายในคราวเดียว (Auction) ตามช่วงเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติ และตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้เข้ามาตรการฯ ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป 

สำหรับกลไกการทำงานของ Auction จะเปิดให้จับคู่ซื้อขายวันละ 3 รอบ ได้แก่ Pre-Open 1, Pre-Open 2 และ Pre-Close โดยสุ่มเวลาจับคู่เหมือนหุ้นปกติ ซึ่งในช่วง No-Matching 1 และ No-Matching 2 จะไม่เปิดให้ส่ง order แต่สามารถ Change Volume และ Cancel Order ได้

3.กำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขาย (Minimum Resting Time) โดยคำสั่งซื้อขายจะต้องคงอยู่ในระบบอย่างน้อย 250 มิลลิวินาที จึงจะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งได้ เพื่อชะลอและป้องกันไม่ให้เกิดคำสั่งซื้อขายในลักษณะใส่-ถอนที่มีความถี่มากจนเกินไปจนอาจทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิดว่ามีความต้องการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในปริมาณมาก ซึ่งมาตรการนี้จะไม่ใช้กับ Market Maker ที่ขึ้นทะเบียนกับ SET หรือ TFEX และปฏิบัติหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง