หรือ SJWD พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาท เคาะอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.04% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2567 นี้
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2567 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.04% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จำนวนไม่เกิน 4,200,000 หน่วย มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 4,200 ล้านบาท
หุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB+(tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบัน จองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปหรือผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น) ระหว่างวันที่ 16 – 18 กันยายน 2567 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สำหรับการเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน 6 ราย ได้แก่ (1) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (2) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (3) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (4) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (5) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ (6) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด และธนาคาร เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สำหรับการเสนอขายเฉพาะต่อผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวว่า “การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำไปขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้และชำระเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนงานขยายการลงทุนทั้งการลงทุนขยายธุรกิจในปัจจุบันและพิจารณาโอกาสขยายธุรกิจด้วยวิธี M&A เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,130.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) 678.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยจากรายได้ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ และธุรกิจขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ ที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 2 ปี 2567 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น และมีกำไรพิเศษหลังหักค่าใช้จ่ายจากการเข้าซื้อหุ้นบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินอิสระหลังหักค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาส 2 ปี 2567